เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครบกำหนด 1 เดือนแล้ว หลังโรงงานหน้ากากอนามัยซีพีสร้างเสร็จสิ้น ล่าสุด โรงงานหน้ากากอนามัยซีพีผลิตหน้ากากอนามัยแจกฟรีบุคลากรทางการแพทย์แล้ว 3,123,600 ชิ้น ให้กับโรงพยาบาล เล็ก กลาง ใหญ่ ทั่วประเทศ 244 โรงพยาบาล ลดปัญหาขาดแคลน เข้าสู่ภาวะปกติ บุคลากรทางการแพทย์พ้นวิกฤตขาดแคลนหน้ากากอนามัย
ทั้งนี้ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย มีการวางแผนการแจกจ่ายอย่างเป็นระบบร่วมกับซีพี โดยมีระบบตรวจสอบย้อนกลับ และเข้าดูรายงานออนไลน์ได้ตลอดเวลาที่เว็บไซต์ www.cpmaskforall.com ซึ่งมีความโปร่งใส มีการระบุโรงพยาบาลที่ได้รับ และจำนวนที่ได้รับ รวมทั้งสามารถติดตามได้ว่าผู้รับคือใครอีกด้วย ทั้งนี้ ซีพีช่วยดูแลเรื่องการขนส่งทั้งหมด โดยรถที่ออกขนส่งทุกคันจะลงทะเบียนกับกรมการค้าภายใน เพื่อควบคุมสินค้าออกจากโรงงานทุกวัน และบันทึกจำนวนเข้าออกทั้งหมด
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มีเครือข่ายทางการแพทย์ โดยจะออกจดหมายเพื่อสำรวจความต้องการ ซึ่งมีคณะกรรมการของโรงพยาบาลรับผิดชอบเรื่องการจัดสรรอย่างเป็นระบบ ปัจจุบันแจกจ่ายได้ทั่วถึง และไม่มีค้างสต็อก โดยใช้ระบบ Just in time ซึ่งทางซีพีมุ่งเน้นการแจกจ่ายทันที เพื่อสุขอนามัย ไม่ควรเก็บไว้ในโกดังเป็นเวลาหลายวัน ที่ผ่านมา ด้วยระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพของของซีพี ทำให้หน้ากากกว่า 3 ล้านชิ้น แจกจ่ายไปแล้วทั่วประเทศ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมานายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าภายใน และคณะเดินทางไปเยี่ยมชมโรงงานหน้ากากอนามัยฟรีเพื่อคนไทย ที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ดำเนินการภายใต้มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ และผลิตโดยบริษัท ซีพี โซเชียล อิมแพคท์ จำกัด ด้วยกำลังการผลิตเดือนละ 3 ล้านชิ้นช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัยได้ในระดับหนึ่ง ถือเป็นอีกบทบาทของภาคเอกชนที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาของประเทศ โดยกรมการค้าภายในส่งสายตรวจกรมการค้าภายในมาประจำที่โรงงานผลิตหน้ากากอนามัยแห่งนี้ 2 คน เพื่อตรวจนับจำนวนหน้ากากอนามัยที่ผลิตได้ในแต่ละวัน รวมทั้งควบคุมการจัดส่งหน้ากากอนามัย เนื่องจากเป็นสินค้าควบคุม
บุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับแจกหน้ากากอนามัย นอกจากแพทย์ แล้วยังรวมถึง พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล พนักงานเข็นเตียง เจ้าหน้าที่เอ็กซเรย์ นักกายภาพบําบัด นักเทคนิคการแพทย์ เภสัชกร โภชนากร และเจ้าหน้าที่ประจําในแผนกที่ให้บริการทางการแพทย์ ซึ่งทำงานใกล้ชิดกับผู้ป่วยวันละนับพันคน มีความเสี่ยงกว่าบุคคลทั่วไป ดังนั้นบุคลากรทางการแพทย์จึงได้รับหน้ากากอนามัยฟรีเป็นลำดับแรก
การผลิตหน้ากากอนามัยฟรี 3 ล้านชิ้นต่อเดือน จะช่วยบรรเทาการขาดแคลนหน้ากากอนามัยสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ได้มาก และถือเป็นอีกหนึ่งบทบาทของภาคเอกชนที่พร้อมยืนหยัดเคียงข้างพี่น้องคนไทย และเข้ามามีส่วนร่วมในการบรรเทาความเดือดร้อนของบุคลากรทางการแพทย์ในภาวะวิกฤต เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้นักรบชุดขาวที่อยู่แถวหน้าได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ต่อไป
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า คนทั่วไปที่ไม่ได้เจ็บป่วย แนะนำว่าควรใช้หน้ากากผ้าธรรมดา เพื่อป้องกันน้ำลายกระเด็นเป็นหลัก เหมือนช่วงไข้หวัดใหญ่ 2009 ระบาด ที่มีการทำหน้ากากผ้ากันเอง หรือทำหน้ากากผ้าแบบแฟชั่น ซึ่งสำหรับคนปกติทั่วไป ถือว่าเพียงพอที่จะสวมใส่เพื่อป้องกันโรค ที่สำคัญสามารถนำมาซักใช้ซ้ำได้ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อหน้ากากอนามัย และยังช่วยลดขยะได้อีกทางหนึ่ง เพราะหน้ากากอนามัยธรรมดา หากทุกคนใช้แล้วทิ้งวันละชิ้นทุกวันน่าจะมีขยะเกิดขึ้นไม่ต่ำกว่าสิบล้านชิ้น
