สธ.ย้ำอยู่กับ “โควิด-19” อีก 1 ปี ห่วงคนไทยเมิน “หน้ากาก” เหตุระบาดไม่รุนแรง

สธ.ย้ำอยู่กับ “โควิด-19” อีก 1 ปี ห่วงคนไทยเมิน “หน้ากาก” เหตุระบาดไม่รุนแรง

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค เปิดเผยระหว่างแถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า ผลการสำรวจความคิดประชาชนแบบออนไลน์ ครั้งที่ 8 ซึ่งเข้าสู่การผ่อนปรนในระยะที่ 3 ช่วงวันที่ 1-6 มิถุนายนที่ผ่านมา จำนวน 1,287 ตัวอย่าง เรื่องการสวมหน้ากากอนามัย และการล้างมือ พบว่าเมื่อมีอาการไข้ หรือ ไอ เจ็บ คอ กลุ่มตัวอย่างมีการสวมหน้ากากอนามัย ร้อยละ 93.1 ทั้งนี้ ย้ำว่าการสวมหน้ากากอนามัยเป็นการป้องกันโรคไม่ให้แพร่ไปสู่ผู้อื่น และ เมื่อไม่มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีการสวมหน้ากากอนามัยหรือไม่ พบว่า มีสวมอยู่ร้อยละ 66.8

“เชื่อว่าเป็นเพราะสถานการณ์ของโรคมีการเปลี่ยนแปลงไป ทำให้แนวโน้มการสวมหน้ากากลดลง ส่วนเรื่องของแนวโน้มสมควรเลิกสวมหน้ากากอนามัยเมื่อไร พบว่า ร้อยละ 53.5 จะยังคงสวมหน้ากากอนามัยต่อไป ส่วนร้อยละ 44 จะเลิกสวมหน้ากากอนามัยต่อเมื่อไม่มีรายงานผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพราะหน้ากากอนามัยไม่จำเป็น ส่วนการล้างมือด้วยสบู่และน้ำ ส่วนใหญ่ประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยเฉพาะก่อนและหลังรับประทานอาหาร ร้อยละ 90.5” นพ.อนุพงศ์ กล่าว

ทั้งนี้ นพ.อนุพงศ์ กล่าวว่า หากจำแนกตามเพศ พบว่า เพศหญิงให้ความร่วมมือในทุกกิจกรรมมากกว่าเพศชาย ขณะที่กลุ่มอ่ายุ 15-24 ปี มีถึงร้อยละ 15.65 ไม่สวมหน้ากากอนามัย

“ย้ำว่ามาตรการการสวมหน้ากากอนามัยยังต้องคงไว้ เพราะเราไม่สามารถทราบได้ว่าใครติดเชื้อหรือไม่ เพราะการผ่อนคลายกิจกรรมและกิจการต่าง มีการรวมตัวของคนจำนวนมาก วันนี้เข้าสู่วันที่ 17 วันแล้วที่ประเทศไทย ไม่พบการติดเชื้อในประเทศ แต่ยังต้องตั้งการ์ดต่อไป จนกว่าจะไม่พบผู้ป่วยติดกันเป็นเวลา 28 วัน ถึงจะสบายใจได้ เชื่อการเผชิญกับโควิด-19 ยังคงมีไปอีกนานอย่างน้อย 1 ปี ดังนั้น จึงอยากให้คิดเสมอว่า หน้ากากอนามัยเป็นปัจจัยที่ 6 ของชีวิต นอกจากปัจจัย 4 พื้นฐาน และ ปัจจัยที่ 5 โทรศัพท์มือถือ” นพ.อนุพงศ์ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image