‘เชียงใหม่’ อันดับ 1 เป้าหมายนักเที่ยวหลัง ‘โควิด-19’ หมอบุ๋มย้ำ ‘เช็กอิน’ ไทยชนะสำคัญ

‘เชียงใหม่’ อันดับ 1 เป้าหมายนักเที่ยวหลัง ‘โควิด-19’ หมอบุ๋มย้ำ ‘เช็กอิน’ ไทยชนะสำคัญ

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) เปิดเผยระหว่างแถลงความคืบหน้าสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ว่าสถานการณ์ทั่วโลก 211 ประเทศ ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 88 และพบผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อทั่วโลกสะสม รวม 8,113,679 ราย รักษาหายแล้ว 4,213,601 ราย เสียชีวิต 439,085 ราย

พญ.พรรณประภากล่าวว่า ประเทศที่พบผู้ป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.สหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อสูงที่สุด 2,182,950 ราย เสียชีวิต 118,283 ราย 2.บราซิล 891,556 ราย เสียชีวิต 44,118 ราย 3.รัสเซีย 537,210 ราย เสียชีวิต 7,091 ราย 4.อินเดีย 343,026 ราย เสียชีวิต 10,018 ราย และ 5.สหราชอาณาจักร 296,857 ราย เสียชีวิต 41,736 ราย โดยจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 125,064 รายภายใน 1 วัน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3,639 ราย

Advertisement

พญ.พรรณประภากล่าวว่า สวนดุสิตโพลได้ทำการสำรวจความเห็นของประชาชนคนไทยว่า หลังจากคลายล็อกดาวน์แล้วอยากไปเที่ยวจังหวัดไหนมากที่สุด ผลสำรวจพบว่า จ.เชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่มีคนต้องการไปเที่ยวมากที่สุด ตามมาด้วย จ.ประจวบคีรีขันธ์ กรุงเทพมหานคร จ.ชลบุรี และ จ.กาญจนบุรี โดยการสำรวจความเห็นว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการท่องเที่ยวปลอดภัยคือ 1.การจำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการในสถานที่ต่างๆ ให้เหมาะสมตามขนาดพื้นที่ 2.เลือกพื้นที่ที่มีความสะอาด มีการคัดกรองผู้เข้าใช้บริการ 3.พนักงานให้บริการสวมหน้ากากอนามัย และ 4.มีการตั้งจุดบริการล้างมือ

นอกจากนี้ พญ.พรรณประภากล่าวว่า การใช้บริการแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” ภายในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่มีร้านค้าย่อยอยู่ และจะมีการให้เช็กอินเข้าร้านค้าย่อย หรือแผนกย่อยในห้าง ซึ่งอาจจะสร้างความไม่สะดวกสบายให้แก่ประชาชน แต่การเช็กอินมีความจำเป็นอย่างมาก เนื่องจากหากมีการตรวจพบว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อขึ้นในห้างที่มีขนาดใหญ่ มีผู้เข้าใช้บริการกว่า 80,000 คน/ครั้ง/วัน หากมีการติดเชื้อขึ้นในพื้นที่ ก็จะส่งผลให้ต้องมีการตรวจหาเชื้อในจำนวนคนถึง 80,000 คน ที่เข้าใช้บริการในเวลานั้น แต่หากมีการเช็กอินเข้าพื้นที่ย่อยต่างๆ ก็จะทำให้สามารถจำกัดขอบเขตผู้ที่จะต้องสอบสวนโรคได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นส่วนที่ประชาชนสามารถช่วยเหลือกันได้เพื่อการสอบสวนโรค

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image