สธ.ไม่ด่วนสรุป ‘แรงงานเมียนมา’ ติดโควิด-19 หลังออกจากไทย เร่งลงพื้นที่สอบสวนโรค

สธ.ไม่ด่วนสรุป ‘แรงงานเมียนมา’ ติดโควิด-19 หลังออกจากไทย เร่งสอบสวนโรค ยันตรวจหาเชื้อกว่า 5 หมื่นตย./สัปดาห์

กรณีที่เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข ประเทศเมียนมา ระบุว่าพบแรงงานชาวเมียนมาผิดกฎหมายในประเทศไทย จำนวน 23 คน ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 หลังเดินทางกลับจากประเทศไทย

เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า กรณีนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการสอบสวนโรค ทั้งนี้ในฝั่งของประเทศไทยนั้นได้รับรายงานจากทีมสอบสวนโรคว่า เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ได้ลงพื้นที่ด่านกักกันระหว่างพรมแดนที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อสอบสวนโรคผู้ที่อยู่ในด่านฯ แล้ว เนื่องจากแรงงานกลุ่มนี้เป็นแรงงานผิดกฎหมาย และถูกเจ้าหน้าที่ของประเทศไทยส่งตัวกลับไปยังประเทศเมียนมา ตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2563 แต่ขณะที่ส่งตัวกลับนั้นไม่มีอาการป่วยเข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค จึงไม่ได้มีการตรวจหาเชื้อใดๆ แต่เมื่อกลับไปถึงประเทศเมียนมาแล้วระยะหนึ่ง จึงมีการตรวจและพบเชื้อในภายหลัง

“ส่วนในฝั่งของประเทศเมียนมา ประเทศไทยจำเป็นต้องทราบว่าทางการประเทศเมียนมา มีมาตรการในการกักกันโรค (State Quarantine) ของผู้เดินทางเข้าประเทศอย่างไร เพื่อความสบายใจของประเทศไทยเอง แต่ทางทีมสอบสวนโรคของไทย ก็ได้ลงพื้นที่ด่านกักกันระหว่างพรมแดนดังกล่าว และสอบสวนโรคว่าแรงงานกลุ่มนี้อยู่ที่ใดบ้างก่อนเดินทางออกจากประเทศไทย” นพ.ธนรักษ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากกรณีนี้มีเสียงสะท้อนว่า การที่ประเทศไทยไม่พบผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศติดต่อกันเป็นเวลานาน เนื่องจากมีการตรวจค้นหาผู้ป่วยน้อยหรือไม่ นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า ประเทศไทยมีการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อในจำนวนที่ไม่น้อย คือ มากกว่า 50,000 รายต่อสัปดาห์ เฉลี่ยประมาณ 7,000 รายต่อวัน โดยรายงานล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์รายงานไปยังกรมควบคุมโรคว่า ประเทศไทยมีการตรวจสะสมไปแล้วกว่า 520,000 ตัวอย่าง

Advertisement

“ในการตรวจค้นหาผู้ป่วยโควิด-19 ของประเทศไทย มีการดำเนินการอย่างเข้มข้น ที่ผ่านมานั้นตรวจไปแล้วแต่ไม่พบผู้ป่วย ส่วนเรื่องของแรงงานกลุ่มนี้ ยังเร็วเกินไปที่จะตอบ หรือสรุปใดๆ เนื่องจากยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนโรคทั้งในประเทศไทยและในประเทศเมียนมา” นพ.ธนรักษ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image