ศบค.ขอเวลาหาข้อมูล “แรงงานเมียนมา” ติดโควิด 23 ราย เผย 19 คนเคยป่วยในไทยเดือน เม.ย.
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) แถลงที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงกรณีแรงงานชาวเมียนมาเดินทางออกจากประเทศไทยและภายหลังพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 จำนวน 23 ราย ว่า กรณีดังกล่าวประเทศเมียนมาได้รายงานผ่านสื่อต่างประเทศ โดยทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ประสานงานกันระหว่าง 2 ประเทศ อย่างให้เกียรติกัน ซึ่งทางการเมียนมาก็มีมาตรการในการป้องกันเป็นอย่างดีและเข้มแข็ง ดังนั้น ทางการไทยจึงได้ประสานไปยังองค์การอนามัยโลก เพื่อดำเนินการตามกฎหมายอนามัยระหว่างประเทศ เข้ามาดูแลซึ่งกันและกัน
โฆษก ศบค. กล่าวว่า เบื้องต้นประเทศไทย พบว่ามีจำนวน 19 ราย เป็นผู้ป่วยแรงงานต่างด้าวเดิมที่ได้เข้าสถานกักกันโรคของรัฐ (State Quarantine) และดูแลจนครบ 14 วัน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 เมษายน และให้เดินทางกลับประเทศไปแล้ว ส่วนอีก 4 ราย อยู่ในระหว่างการประสานหาข้อมูล
“ทั้งนี้ ในจำนวน 19 ราย ได้เข้ารับการดูแลในสถานกักกันโรคฯ จึงค่อนข้างมั่นใจ แต่ข้อมูลที่ขาดหายไป อยู่ในระหว่างการประสานงานของ 2 ประเทศ ทั้งไทยและเมียนมา” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีผู้ที่เข้าพักในสถานกักกันโรคของรัฐ โดยมีโรคประจำตัว แต่ไม่มีการติดเชื้อโควิด-19 ทางเจ้าหน้าที่จะมีการดูแลอย่างไร นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นบทเรียนที่จะต้องเรียนรู้ และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้สูญเสีย โดยผู้ที่เข้ามายังสถานกักกันโรคฯ สะสมประมาณ 4 หมื่นกว่าราย ทางเจ้าหน้าที่ทำงานกันอย่างหนัก และทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานผู้อำนวยการ ศบค. มีความเป็นห่วง และได้มอบมายัง ศบค. ชุดเล็ก ให้ดำเนินการตามมาตรการคุมเข้ม คือ หากคัดกรองแล้วพบว่ามีอาการป่วยที่จะเป็นต้องเข้าอยู่โรงพยาบาล ก็จะส่งไปพักในโรงพยาบาลแทนโรงแรม
