ไทยติดเชื้อ “โควิด-19” อีก 2 ราย นำเข้าจากคูเวต
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า สถานการณ์ในประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 3,173 ราย ซึ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,444 ราย และอยู่ในสถานกักกันโรคของรัฐ (State Quarantine) 236 ราย ไม่พบผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม ล่าสุดมีผู้ป่วยเสียชีวิตสะสมคงที่ 58 ราย ผู้ป่วยรักษาหายสะสมที่ 3,059 ราย เหลืออยู่ในการรักษาที่โรงพยาบาล (รพ.) 56 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในจำนวนผู้ป่วยสะสมทั้งหมด พบในกรุงเทพมหานคร และ จ.นนทบุรี 1,766 ราย ภาคเหนือ 95 ราย ภาคกลาง 457 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 111 ราย ภาคใต้ 744 ราย โดยผู้ป่วยอายุน้อยสุด 1 เดือน อายุมากสุด 97 ปี โดยเฉลี่ยคืออายุ 39 ปี
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผู้ป่วยรายใหม่ 2 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้าพักในสถานกักกันโรคของรัฐ เดินทางกลับจากประเทศคูเวต 2 ราย เป็นชายไทย อายุ 47 และ 48 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางมาถึงไทย เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน โดยทั้ง 2 ราย ผ่านการคัดกรองที่สนามบินสุวรรณภูมิ พบว่ามีอาการป่วย คือ ไอและมีไข้ จึงส่งตรวจหาเชื้อในวันที่ 29 มิถุนายน ผลตรวจพบเชื้อ ทั้งนี้ ประเทศคูเวต เป็นประเทศต้นทางที่พบอัตราการป่วยมากที่สุดร้อยละ 15.25 โดยกลับมา 293 คน ยืนยันผลบวก 36 คน
โฆษก ศบค.กล่าวถึงสถานการณ์ทั่วโลก ว่า มีผู้ป่วยสะสม 10.5 ล้านราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่ 1.76 แสนราย อาการหนัก 5.7 หมื่นราย หายแล้ว 5.79 ล้านราย เสียชีวิต 5.13 แสนราย โดยสหรัฐอเมริกา เป็นอันดับ 1 จำนวน 2.72 ล้านราย วันเดียวเพิ่มขึ้น 4.6 หมื่นรายใหม่ บราซิล 1.4 ล้านราย เพิ่มขึ้นวันเดียว 3.7 หมื่นรายใหม่ รัสเซีย 6.4 แสนราย อินเดีย 5.8 แสนราย และสหราชอาณาจักร 3.12 แสนราย ประเทศไทยอยู่อันดับ 96 ของโลก
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับข่าวน่าสนใจในต่างประเทศ คือ ไทยติด 1 ใน 14 ประเทศ ที่สหภาพยุโรปอนุญาตให้เข้าได้ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม โดยคัดเลือกจากจำนวนผู้ป่วยในรอบ 14 วัน แนวโน้มการติดเชื้อ และแนวทางของรัฐบาลแต่ละประเทศในการต่อสู้กับโรคระบาด เรียกว่า ได้รับการยอมรับและเดินทางไปได้
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” ลงทะเบียนเข้าใช้งาน 32 ล้านกว่าคน กิจการร้านค้าลงทะเบียน 2.5 แสนร้าน ส่วนกิจการกิจกรรมของระยะที่ 5 เช่น ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด โรงน้ำชา ที่ต้องลงทะเบียนก่อนถึงเปิดบริการได้ โดยประกาศเป็นข้อกำหนดแล้ว ส่วนการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น ทั้งระบบไอโอเอส และแอนดรอยด์ รวม 4.95 แสนคน
“ในวันนี้ เป็นวันแรกของการผ่อนปรนระยะที่ 5 ที่ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เป็นวันแรก ที่เราจะกลับมาสู่ชีวิตปกติแบบวิถีใหม่ ชีวิตของเรา ณ ตอนนี้แทบไม่มีข้อแตกต่างจากเดิม ทุกกิจการ/กิจกรรมจะเริ่มต้นวันนี้เป็นส่วนใหญ่ และในระยะที่ 5 เป็นกิจการ/กิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง อาจจะนำมาสู่การติดเชื้อได้ ดังนั้น การดูแลส่วนบุคคลยังสำคัญ คือการสวมหน้ากากอนามัย” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
