เปิดคุณสมบัติ “11 กลุ่ม” อนุมัติเดินทางเข้าไทย ศบค.เผยอาจรวม “แทรเวล บับเบิล”

เปิดคุณสมบัติ “11 กลุ่ม” อนุมัติเดินทางเข้าไทย ศบค.เผยอาจรวม “แทรเวล บับเบิล”

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) กล่าวถึงมาตรการรองรับกลุ่มผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเพื่อเข้าสู่ประเทศไทย ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า โดยหลักการคือ ผู้ที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ จะต้องให้ข้อสงสัยไว้ว่าจะเป็นพาหะนำเชื้อเข้ามาในประเทศไทย ในทางกฎหมายโดยตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ ได้บัญญัติ 3 วิธีการ คือ 1.แยกกัก (Isolation) หากพบผู้ป่วยที่ด่านคัดกรอง จะต้องแยกและนำเข้าสู่การรักษาทันที 2.กักกัน (Quarantine) โดยแบ่งเป็นสถานกักกันโรคของรัฐ (State Q.) การเฝ้าสังเกตอาการที่บ้าน (Home Q.) การอยู่ในโรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการ (Hospital Q.) สำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาเพื่อการรักษาพยาบาลในประเทศไทย โดยจะต้องอยู่ในครบ 14 วัน การใช้สถานกักกันโรคฯ ทางเลือก(Alternative Q.) โดยมีค่าใช้จ่ายสูงเหมาะสำหรับผู้ที่มีความพร้อม และการเดินทางเข้ามาเป็นกลุ่มก้อนโดยมีการจัดที่พักรองรับไว้ส่วนตัว แต่จะต้องเป็นสถานที่ที่ผ่านมาตรฐาน และไม่อนุญาตให้ออกไปนอกบริเวณที่กำหนด(Organization Q.)

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อไปว่า 3.คุมไว้สังเกต (Closed Observation) เป็นกลุ่มผู้เดินทางเข้ามาระยะสั้น 3-4 วัน ซึ่งไม่ต้องอยู่ให้ครบ 14 วัน แต่ต้องพักในการใช้สถานกักกันโรคฯ ทางเลือก (Alternative Q.)

“ดังนั้น จะต้องมีการตรวจหาเชื้ออย่างละเอียด โดยตรวจหาเชื้อก่อนเดินทางเข้ามาในไทย เมื่อถึงประเทศไทยก็จะต้องตรวจซ้ำอีกครั้ง การเดินทางมาจะต้องมีแผนการเดินทางที่ชัดเจน ขณะที่อยู่ในประเทศไทยจะต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวเท่านั้น ไปจนถึงจะต้องมีบุคลากรทางการแพทย์ติดตามอยู่ตลอดเวลา และจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด” โฆษก ศบค.กล่าว

Advertisement

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การอนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้ามาในประเทศไทย ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 12) สำหรับผู้โดยสารหรือผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ได้แบ่งออกเป็น 11 กลุ่ม โดยยังไม่มีการกำหนดจำนวนผู้เดินทางเข้ามา ซึ่งช่วงแรกอาจจะมีการระบุว่าให้ผู้เดินทางเข้ามาได้เพียง 4 ประเทศ 1 เขตปกครองพิเศษ ที่ได้รายงานไปเมื่อวันก่อน

โฆษก ศบค.กล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวให้ยกไปทั้งหมด และให้ยึดใหม่ตามที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 คือ 11 กลุ่ม ได้แก่ 1.ผู้มีสัญชาติไทย 2.ผู้มีเหตุยกเว้น จะต้องคุมไว้สังเกต 3.บุคคลในคณะทูต 4.ผู้ขนส่งสินค้าตามความจำเป็น เป็นการเปิดด่านตามขอบชายแดน 5.ผู้ควบคุมยานพาหนะ เช่น การทำงานสายการบิน 6.ผู้ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งเป็นคู่สมรส บิดา มารดา บุตรของผู้มีสัญชาติไทย 7.ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีใบสำคัญ ถิ่นที่ยู่ในราชอาณาจักร เช่น มีบ้านในไทย 8.ผู้ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งมีใบอนุญาตทำงาน 9.ผู้ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาในประเทศ 10.ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีความจำเป็นต้องข้ามารับการตรวจรักษาพยาบาลในประเทศไทย และ 11.ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งได้รับอนุญาตให้ดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตามข้อตกลงพิเศษ

“ขณะนี้มี 11 กลุ่มนี้ คือ กลุ่มหลัก ในการเดินทางของคนไทยและคนต่างประเทศ ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า 11 กลุ่มนี้ เป็น แทรเวล บับเบิล (Travel bubble) ด้วย แต่ว่าคำว่า แทรเวล บับเบิล ถูกใช้มาก และอาจจะทำให้คิดว่าเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผมจะพยายามใช้คำว่า แทรเวล บับเบิล ให้น้อยลง เพื่อป้องกันการสับสน ทาง ศบค.ได้คิดอย่างละเอียดเป็นอย่างดี เพื่อติดตามทุกคนที่เข้ามาในประเทศไทย เพื่อรักษาสถานภาพการเป็นศูนย์ในประเทศไทย” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image