ศบค.เผยไทยติดเชื้อ “โควิด-19” เพิ่มใหม่ 3 ราย

ศบค.เผยไทยติดเชื้อ “โควิด-19” เพิ่มใหม่ 3 ราย

เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า สถานการณ์ในประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 ราย ล่าสุดตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมของประเทศไทยอยู่ที่ 3,239 ราย ซึ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,444 ราย และอยู่ในสถานกักกันโรคของรัฐ (State Quarantine) 302 ราย ไม่พบผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม สะสมรวม 58 ราย ผู้ป่วยรักษาหายสะสมที่ 3,096 ราย อยู่ในการรักษาที่โรงพยาบาล (รพ.)จำนวน 85 ราย ในจำนวนผู้ป่วยสะสมพบในกรุงเทพมหานคร และ จ.นนทบุรี 1,787 ราย ภาคเหนือ 95 ราย ภาคกลาง 502 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 111 ราย ภาคใต้ 744 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เป็นผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศซูดาน 3 ราย ทั้งหมดเป็นหญิงไทย อายุ 22, 23 และ 28 ปี เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม โดยเป็นเที่ยวบินเดียวกับลูกสาวอุปทูตที่เคยมีรายงานก่อนหน้านี้แล้ว 12 ราย และเข้าพักสถานกักกันโรคของรัฐ (State Quarantine) ที่ จ.ชลบุรี และตรวจหาเชื้อในวันที่ 15 กรกฎาคม ผลตรวจพบเชื้อ โดย 2 รายไม่มีอาการ และอีกรายมีอาการไข้ ไอ มีเสมหะ

นพ.ทวีศิลป์ กล่าว สถานการณ์ทั่วโลกวันนี้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 255,010 ราย ซึ่งคาดว่าเป็นนิวไฮท์ (New High) ซึ่ง 1.สหรัฐอเมริกา มีจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,695,025 ราย โดยขณะนี้มีเตียงไม่เพียงพอ 2.บราซิลมีผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,014,738 ราย 3.อินเดีย มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,005,637 ราย และในสถานการณ์ของสิงคโปร์ ยังพบผู้ป่วยรายใหม่อยู่ที่เลข 3 หลัก คือ 248 ราย

“โดยในประเทศบราซิลแตะ 2 ล้านคน เป็นวันแรก และประเทศอินเดียแต่ที่ 1 ล้านคน วันแรกเช่นกัน ส่วนประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 101 ซึ่งเป็นตัวเลขเยอะนับว่าดี ทำให้เราอยู่ในอันดับ 3 หลัก อย่างไรก็ตามสถานการณ์ทั่วโลกยังคงวิกฤต และเรายังต้องระมัดระวัง ความเป็นศูนย์นี้ทำให้เราสบายใจ แต่ไม่ใช่ให้เราติดกับตัวเลขที่เป็นศูนย์นี้ไปตลอด เราปล่อยให้มีตัวเลขบวกได้อย่างเช่นประเทศจีน พบในหลักสิบ ก็ยังพอไหว เกิดการติดเชื้อขึ้นได้เป็นธรรมดาอย่าคาดหวังว่าจะเป็นศูนย์ไปตลอด แต่เมื่อมีขึ้นมาแล้วขอให้เพียงพอกับระดับของการบริการทางการแพทย์” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image