กทม.ย้ำไม่พบผู้ติดเชื้อ “โควิด-19” กว่า 60 วัน แต่อย่าวางใจ เหตุสถานการณ์โลกยังรุนแรง

กทม.ย้ำไม่พบผู้ติดเชื้อ “โควิด-19” กว่า 60 วัน แต่อย่าวางใจ เหตุสถานการณ์โลกยังรุนแรง

วันที่ 21 กรกฎาคม พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม ศบค.กทม. ที่ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า) ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 แม้ในกรุงเทพมหานคร และในประเทศไทยไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศ เป็นระยะเวลากว่า 60 วันแล้วก็ตาม แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ของโลกยังคงรุนแรง โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากถึงวันละกว่า 2 แสนราย และอาจทำให้มีการหลุดลอดเข้ามาในประเทศไทยได้ โดยเฉพาะจากการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายที่ไม่ผ่านการตรวจคัดกรองก่อนเข้าประเทศ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชนให้ความร่วมมือป้องกันการแพร่ระบาดในประเทศอย่างเคร่งครัดต่อไป

ผอ.ศบค.กทม. กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้คณะทำงานด้านการประสานงานการดูแลความสงบเรียบร้อย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักเทศกิจ สำนักงานเขต กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เป็นต้น ตรวจแนะนำสถานประกอบการ สถานบริการอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานประกอบการที่คล้ายคลึงกัน โดยให้เพิ่มจำนวนสถานที่และความถี่ในการตรวจแนะนำ และกำชับให้สถานบริการปฏิบัติตามข้อกำหนด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด–19 ตามมาตรการป้องกันโรค ทั้ง 19 ข้อ อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการจำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการให้เหมาะสมกับพื้นที่สถานบริการ การเว้นระยะห่างกันของผู้ใช้บริการ และการกำชับให้ผู้ใช้บริการใช้แอปพลิเคชั่นหรือแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” หรือให้มีการลงทะเบียนก่อนเข้าและออกจากสถานที่ทุกคน

“สำหรับการพบผู้ป่วยโควิด-19 กรณีบุตรอุปทูตซูดานนั้น จากการสอบสวนโรคพบว่า มีผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย จำนวนทั้งสิ้น 380 ราย แยกเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง จำนวน 7 คน ผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงต่ำ จำนวน 27 คน และผู้สัมผัสอื่นๆ ซึ่งเป็นผู้ที่พักอาศัยในคอนโดเดียวกับผู้ผู้ป่วย จำนวน 346 คน ผลการเก็บตัวอย่างส่งตรวจวิเคราะห์เชื้อ ปรากฏว่าไม่พบผู้ติดเชื้อ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง กักกันตนเองที่บ้านพักสถานทูต 14 วัน ผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงต่ำ เฉพาะผู้ที่ใช้ลิฟต์ตัวเดียวกับคณะผู้ป่วยให้กักกันที่บ้านพักจนครบ 14 วัน ส่วนคนอื่นให้เฝ้าระวังสังเกตอาการ 14 วัน” พล.ต.ท.โสภณ กล่าว

ทั้งนี้ พล.ต.ท.โสภณ กล่าวว่า ในส่วนของประชาชนชาวกรุงเทพฯ หรือผู้พักอาศัยในกรุงเทพฯ ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงใน จ.ระยอง ได้แก่ ผู้ที่มีประวัติเข้าพักที่โรงแรม ดีวารี ดีว่า ระยอง เมื่อวันที่ 8 – 11 กรกฎาคม 2563 หรือไปใช้บริการศูนย์การค้าแพชชั่น ช็อปปิ้ง เดสติเนชั่น (ห้างฯ แหลมทอง )เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2563 เวลา 11.00 – 15.00 น. นั้น ได้ประสานมายัง กทม. เพื่อเข้ารับการตรวจคัดกรอง จำนวนทั้งสิ้น 58 ราย ซึ่งเป็นผู้เข้าเกณฑ์ต้องเก็บตัวอย่างส่งตรวจวิเคราะห์เชื้อ จำนวน 25 ราย ผลการตรวจวิเคราะห์ไม่พบเชื้อทั้ง 25 ราย จึงขอให้ประชาชนสบายใจไม่ตื่นตระหนก แต่ขอให้ระมัดระวังดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล อาทิ สวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่างระหว่างบุคคล หมั่นล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น ตลอดจนขอให้ประชาชนปฏิบัติตามข้อกำหนดของมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการ รวมถึง กทม.กำหนดอย่างเคร่งครัดรัดกุมต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image