สธ.เข้ม “โควิด-19” บน “เครื่องบิน” สวนหน้ากาก-เว้นระยะห่างตลอดเวลาในสนามบินและบนเครื่อง

สธ.เข้ม “โควิด-19” บน “เครื่องบิน” สวนหน้ากาก-เว้นระยะห่างตลอดเวลาในสนามบินและบนเครื่อง

วันที่ 31 กรกฎาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.สุวิช ธรรมปาโล ผู้อำนวยการกองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ กรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย แถลงมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ในสายการบิน ว่า สธ.ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวัง คัดกรอง ป้องกันควบคุมโรคในกลุ่มผู้เดินทางเข้าออกประเทศ ที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ 68 แห่งทั่วประเทศ ทั้งท่าอากาศยาน ท่าเรือ และด่านพรมแดนทางบก เพื่อลดความเสี่ยงโรคโควิด-19

“สำหรับด่านท่าอากาศยาน ได้ร่วมมือกับทหาร ตำรวจ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง บริษัทท่าอากาศยานไทย และจิตอาสา ดำเนินการตามมาตรการที่กำหนด ตั้งแต่ก่อนเข้าประเทศ ผู้เดินทางจะต้องมีเอกสาร เช่น ฟิต ทู ฟลาย (Fit to Fly), ผลการตรวจว่าไม่มีเชื้อโควิด-19 ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง มีประกันภัยที่ครอบคลุมการตรวจรักษาโควิด-19 เมื่อมาถึงสนามบินจะตรวจคัดกรอง สังเกตอาการ ด้วยเครื่องเทอร์โมสแกน เครื่องวัดอุณหภูมิแบบมือถือ และการสอบถามข้อมูลรายบุคคล หากมีไข้ มีอาการเข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง จะส่งไปโรงพยาบาล แต่หากไม่มีอาการจะเข้าสถานที่กักตัวที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) เพื่อเฝ้าระวังโรคจนครบ 14 วัน” นพ.สุวิช กล่าว

นพ.สุวิช กล่าวต่อไปว่า สำหรับการเดินทางภายในประเทศ มีมาตรการคัดกรองตั้งแต่ก่อนเข้าสนามบินด้วยเครื่องเทอร์โมสแกน ซึ่งบางสนามบินเครื่องจะมีโปรแกรมตรวจจับใบหน้า หากมีไข้หรือไม่สวมหน้ากากจะส่งสัญญาณเตือน มีจุดบริการล้างมือ ผู้ที่อยู่ภายในสนามบินทุกคนต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา นั่งเว้นระยะห่างตามจุดที่กำหนด มีการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าเกต (Gate) ขณะอยู่บนเครื่อง ทุกคนต้องสวมหน้ากาก ไม่รับประทานอาหารตลอดการเดินทาง หากมีอาการป่วย จะแยกไปนั่งแถวหลังท้ายเครื่องที่จัดเตรียมไว้ และเมื่อถึงสนามบินปลายทาง จะได้รับการตรวจคัดกรองก่อนออกจากสนามบิน และติดตามตัวด้วยแอพพลิเคชั่น AOT Airport

Advertisement

ด้านนายสันติสุข กล่าวว่า สายการบินแอร์เอเชียเริ่มกลับมาให้บริการเส้นทางภายในประเทศตั้งเเต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 โดยมีเเนวปฏิบัติเพื่อควบคุมดูเเลด้านสุขอนามัยและความปลอดภัย การรักษาระยะห่าง (Social Distancing) ตามมาตรฐานที่ สธ. เเละสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยกำหนด ทั้งการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่อใช้บริการสายการบิน การงดจำหน่ายอาหารเเละเครื่องดื่ม ฯลฯ การพ่นและอบสเปรย์ฆ่าเชื้อทำความสะอาดเครื่องบินและรถบัสรับส่งทุกวันและทุกเที่ยวบิน โดยเครื่องบินทุกลำใช้ระบบกรองอากาศที่สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้มากกว่าร้อยละ 99.99 ด้วย HEPA FILTER รวมทั้งนโยบายลดการสัมผัสในการให้บริการ

“นอกจากนี้ ลูกเรือที่ปฏิบัติหน้าที่บนเที่ยวบิน รวมถึงพนักงาน จะได้รับการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ก่อนเเละหลังการปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้ง สวมอุปกรณ์ป้องกัน ได้แก่ หน้ากากอนามัย แว่นตา และถุงมือ ตลอดการให้บริการเพื่อความมั่นใจของผู้โดยสารเเละพนักงานทุกคน” นายสันติสุข กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image