ด่วน! โควิด-19 ใหม่ 15 ราย เป็นชายไทยทุกราย กลับจาก “อียิปต์-ซาอุฯ-ญี่ปุ่น”
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) แถลงข่าวความคืบหน้าของสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สถานการณ์ในประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 15 ราย มาจากต่างประเทศและเข้าพักในสถานกักกันโรคของรัฐ (State Quarantine) ทุกราย รวมผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,345 ราย ซึ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,444 ราย และอยู่ในสถานกักกันโรคของรัฐ (State Quarantine) 408 ราย ไม่พบผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม สะสมรวม 58 ราย ผู้ป่วยรักษาหายสะสมที่ 3,148 ราย อยู่ในการรักษาที่โรงพยาบาล (รพ.) จำนวน 139 ราย ในจำนวนผู้ป่วยสะสมพบในกรุงเทพมหานคร (กทม.) และนนทบุรี จำนวน 1,815 ราย ภาคเหนือ 95 ราย ภาคกลาง 579 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 111 ราย ภาคใต้ 744 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ คัดกรองที่ด่านควบคุมโรค และเข้าสถานที่กักกันของรัฐ(State Quarantine) จำนวน 15 ราย ได้แก่
1.ประเทศอียิปต์ 4 ราย ทั้งหมดเป็นชายไทย อายุ 22, 23, 26 และ 28 ปี เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม เป็นเที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 5 ราย เข้าพักใน State Quarantine ที่ จ.ชลบุรี และตรวจหาเชื้อเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่ 12 ของการเข้าพัก ผลตรวจพบเชื้อ ทั้งหมดไม่มีอาการ
2.ประเทศซาอุดิอาระเบีย จำนวน 10 ราย เป็นนักศึกษาชายไทย 9 ราย อายุระหว่าง 24- 28 ปี และอีก 1 รายเป็นชายไทย อายุ 43 ปี อาชีพนักงานโรงงาน เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม เป็นเที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 2 ราย เข้าพัก State Quarantine ที่ จ.ชลบุรี และตรวจหาเชื้อในวันที่ 5 สิงหาคม เป็นวันที่ 11 ของการเข้าพัก ผลตรวจพบเชื้อ ทั้งหมดไม่มีอาการ
3.ญี่ปุ่น 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 29 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม เข้าพัก state Quarantine ที่ จ.สมุทรปราการ และตรวจหาเชื้อในวันที่ 5 สิงหาคม เป็นวันที่ 5 ของการเข้าพัก ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ
“สถิติผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ และเข้าพักในสถานกักกันโรคฯ พบว่า ซาอุดิอาระเบีย เดินทางเข้าประเทศไทยมา 493 ราย พบผู้ป่วย 41 ราย อียิปต์ เดินทางเข้ามา 1,360 ราย พบผู้ป่วย 49 ราย และญี่ปุ่น เดินทางเข้ามา 2,765 ราย พบผู้ป่วย 6 ราย” โฆษกศบค. กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อไปว่า จำนวนผู้ป่วยใหม่ 15 ราย อาจจะดูมาก แต่ล้วนแล้วแต่เป็นผู้อยู่ในสถานกักกันโรคฯ และเป็นกลุ่มก้อนที่เคยรายงานไปแล้ว และในวันนี้มีการประชุม ศบค. โดยจะมีการนำเสนอข้อมูลต่อไป ส่วนการแถลงการณ์ในวันจันทร์ พุธและศุกร์ จะผ่อนคลายมอบให้กับกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้แถลง ส่วนทางทำเนียบรัฐบาลจะแถลงเฉพาะหลังการประชุมที่สำคัญๆ เพื่อให้หน่วยงานที่ได้รับนโยบายจาก ศบค. เป็นผู้ให้ข่าวโดยตรง เพื่อการทำงานที่มีส่วนร่วมทุกภาคส่วน
ทั้งนี้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สถานการณ์ทั่วโลก มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 19,256,652 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้น 282,728 ราย เสียชีวิตสะสม 717,680 ราย โดยอันดับ 1 คือประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน 5,032,179 ราย เสียชีวิต162,804 ราย อันดับ 2 บราซิล จำนวน 2,917,562 ราย เสียชีวิต 98,644 ราย อันดับ 3 อินเดีย จำนวน 2,025,409 ราย เสียชีวิต 41,638 ราย อันดับ 4 รัสเซีย จำนวน 871,894 ราย เสียชีวิต 14,606 ราย และอันดับ 5 แอฟริกาใต้ จำนวน 538,184 ราย เสียชีวิต 9,604 ราย โดยประเทศไทยอยู่อันดับที่ 112
“ประเทศ 50 อันดับแรกพบว่า ฟิลิปปินส์ เพิ่ม 3,480 รายใน 1 วัน ซึ่งเป็นเลขสี่หลัก อินโดนีเซียเพิ่มขึ้น 1,882 ราย อียิปต์เพิ่มขึ้น 131 ราย จีนเพิ่มขึ้น 37 ราย สิงคโปรบ้านใกล้เรือนเคียงเราเพิ่มขึ้น 301 ราย ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นสี่หลัก คือ 1,134 ราย” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
โฆษก ศบค. กล่าวว่า ข่าวที่น่าสนใจในต่างประเทศ “ยูเอ็น” ชื่นชมไทยรับมือโควิด ชี้ เป็นตัวอย่างของความแข็งแกร่งและความสามัคคี โดยนางดีตา สภารวัล ผู้แทนองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย ได้เขียนบทความลงในเว็บไซต์ขององค์กรสหประชาชาติเพื่อแสดงความชื่นชมความสำเร็จของประเทศไทยในการจัดการกับวิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้องค์การอนามัยโลกยกให้ไทยและนิวซีแลนด์ เป็นความสำเร็จที่ประเทศอื่นควรศึกษา โดยสรุปคือความสำเร็จนี้มาจาก 3 ปัจจัยหลักคือ 1.การดำเนินมาตรการของรัฐบาล 2.ความรับผิดชอบต่อสังคมของจิตอาสา และ 3.ความสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของประชาชนในการช่วยกันป้องกันโรค โดย 2 ใน 3 ข้ออยู่ในภาคประชาชน เป็นสิ่งที่ประสบความสำเร็จและต้องยกความดีความชอบให้กับประชาชนทุกคน แต่ศึกนี้ยังยาวนาน ยังต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนต่อไป