เมื่อวันที่ 5 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การตรวจสอบการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน จ.เชียงราย ติดต่อกับเมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ว่า ยังคงต้องเฝ้าจับมองอย่างใกล้ชิดต่อไป โดยล่าสุดมีรายงานว่า ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษที่ 4 เมืองลา ของประเทศเมียนมา ซึ่งตั้งอยู่ติดกับชายแดนประเทศจีนและห่างจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย ไปทางทิศเหนือประมาณ 254 กิโลเมตร พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีกจำนวน 3 ราย โดยทั้งหมดเป็นชายที่อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านซือลือ เขตรอยต่อระหว่างเมืองยาง ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อีกเมืองหนึ่งในรัฐฉานกับเขตปกครองพิเศษที่ 4 เมืองลา
โดยทั้งหมดถูกพบว่าติดเชื้อหลังจากได้เข้าไปทำงานเป็นคนงานภายในสวนยางพาราแห่งหนึ่งในเขตเมืองลา ซึ่งเป็นธุรกิจของชาวจีนที่เข้าไปทำสวนยางเป็นบริเวณกว้าง
ต่อมาพบว่าทั้ง 3 คนเป็นไข้ขึ้นสูงจึงได้เข้ารับการรักษา และทางเจ้าหน้าที่เมียนมาได้ส่งเชื้อไปตรวจที่เมืองย่างกุ้ง ผลล่าสุดพบมีเชื้อไวรัสโควิด-19 ล่าสุดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเมียนมาได้พาตัวทั้ง 3 ไปรับการรักษาที่เมืองเชียงตุง ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่มีความพร้อมด้านการรักษาพยาบาล ขณะที่เมืองเชียงตุงตั้งอยู่ห่างจากชายแดนไทยด้าน อ.แม่สาย ไปทางทิศเหนือประมาณ 168 กิโลเมตร
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุดังกล่าว ทางการเมียนมาได้ทำการปิดห้ามเข้า-ออกเมือง หรือ ล็อกดาวน์ที่เมืองยางแล้ว ส่วนที่เมืองลาซึ่งเป็นเขตปกครองพิเศษที่อยู่ติดชายแดนจีนได้ทำการล็อกดาวน์มานานกว่า 3-4 เดือน นับตั้งแต่เกิดการระบาดในช่วงแรก
ขณะที่สถานที่ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย ยังไม่พบความผิดปกติ หรือมีผู้ต้องสงสัยว่าจะติดเชื้อแต่อย่างใด อย่างไรก็ดี ทางการเมียนมาได้ห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิว ตั้งแต่เวลา 00.00 – 04.00 น. โดยยังไม่ปิดสถานที่ หรือล็อกดาวน์แต่อย่างใด ส่วนฝั่งไทยทางเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังผาเมือง ก็ได้วางกำลังเพื่อป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองอย่างต่อเนื่อง
