เปิดไทม์ไลน์หญิงฝรั่งเศสติดโควิด-19 พบกลุ่มเสี่ยง 36 ราย
กรณีกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงพบ หญิงสัญชาติฝรั่งเศส อายุ 57 ปี ที่เดินทางเข้าประเทศไทยพร้อมครอบครัว รวม 3 คน ไปพำนักที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี หลังจากผ่านการกักกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 เป็นเวลา 14 วัน ในสถานกักกันโรคทางเลือกที่รัฐจัดให้ (ASQ) ติดเชื้อโควิด-19 และล่าสุดเข้ารับการรักษาในห้องแยกโรงพยาบาล (รพ.) เกาะสมุย นั้น
วันนี้ (23 ตุลาคม 2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมควบคุมโรคได้เผยแพร่ช่วงเวลา (ไทม์ไลน์) ที่หญิงสัญชาติฝรั่งเศสและครอบครัวเดินทางเข้าประเทศไทย พบว่ามีรายละเอียดดังนี้
-วันที่ 30 กันยายน 2563 หญิงฝรั่งเศส อายุ 57 ปี พร้อมสามี และลูก รวม 3 คน เดินทางมาจากเมือง ลิโมเกส (Limoges) ประเทศฝรั่งเศส ด้วยสายการบิน TG 933 เข้าพักในสถานกักกันโรคทางเลือก (ASQ) จ.สมุทรปราการ
-วันที่ 3 ตุลาคม เก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อโควิด-19 ครั้งที่ 1 ให้ผลเป็นลบ
-วันที่ 11 ตุลาคม เก็บตัวอย่างครั้งที่ 2 ให้ผลเป็นลบ
-วันที่ 15 ตุลาคม ออกจากสถานกักกันโรคไปสถานทูตฝรั่งเศส จากนั้นเดินทางไป อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ เที่ยวบิน PG 167 เมื่อไปถึงสนามบินนานาชาติสมุย เพื่อนขับรถยนต์ส่วนตัวไปรับเข้าพักที่บ้าน
-วันที่ 17 ตุลาคม หญิงชาวฝรั่งเศสรายดังกล่าวเริ่มมีอาการไข้ ไอ มีเสมหะ ปวดกล้ามเนื้อ แต่ยังเดินทางไปห้างบิ๊ก C และไปร้านเซเว่น อิเลฟเว่น ใกล้บ้านพัก
-วันที่ 20 ตุลาคม นั่งรถยนต์ส่วนตัวไปพบแพทย์เพื่อรักษาตัวที่ รพ.กรุงเทพสมุย พบว่ามีอุณหภูมิในร่างกาย 36.2 องศาเซลเซียส มีการเก็บตัวอย่างส่งตรวจ PCR ที่ รพ.เกาะสมุย
-วันที่ 21 ตุลาคม ผู้ป่วยออกจาก รพ. และทราบผลตรวจ PCR ว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงส่งตัวอย่างตรวจยืนยันที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 11 สุราษฎรธานี
-วันที่ 22 ตุลาคม ผลตรวจจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ฯ ยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงส่งตัวผู้ป่วยไปรักษาที่ห้องแยก รพ.เกาะสมุย และตามสามีและลูกของผู้ป่วยไปตรวจหาเชื้อ แต่ยังไม่พบว่าทั้ง 2 ราย ติดเชื้อดังกล่าว นอกจากนี้ ได้ตามตัวเพื่อนที่ไปรับที่สนามบินตรวจหาเชื้อ จะทราบผลตรวจ PCR ภายในเย็นวันนี้
ทั้งนี้จากผู้ป่วยหญิงสัญชาติฝรั่งเศสรายนี้ พบว่ามีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เป็น สามีและลูก 2 ราย ผู้โดยสารเที่ยวบินที่ PG 167 10 ราย ลูกเรือ 2 ราย เพื่อที่ไปรับที่สนามบินนานาชาติสมุย 1 ราย ส่วนผู้ที่สัมผัสเสี่ยงต่ำ 21 ราย รวมกลุ่มเสี่ยงทั้งสิ้น 36 ราย