สธ.แจงโควิด “สายพันธุ์อังกฤษ” พบในไทย ไม่แรงหรือแพร่เร็วขึ้น-หน้ากากผ้ายังป้องได้
เมื่อวันที่ 4 มกราคม ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.โอภาส การ์ยกวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีการพบโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือ โควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษในประเทศไทย เมื่อวันที่ 3 มค. ว่า ประเด็นเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์อังกฤษ จากการเปิดเผยของ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยววชาญด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยพบว่าผู้โดยสารจากอังกฤษ 4 รายเดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม โดยทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการกักกันโรคของรัฐ(Quarantine) 14 วัน แต่รายนี้อยู่ไม่กี่วันตรวจพบเชื้อจึงนำเข้าสู่การรักษาที่โรงพยาบาล(รพ.) ทั้ง 4 ราย เรียกว่าเป็นการตรวจเจอจากระบบกักกันโรคของเรา ซึ่ง นพ.ยง ได้ไปถอดรหัสพันธุกรรมทั้งตัว จึงพบว่าเป็นสายพันธุ์กลายพันธุ์ของอังกฤษจริง ทั้ง 4 คน ซึ่งเป็นพ่อแม่ลูกและไม่ได้มีการแพร่กระจาย
“จากการเปิดเผยของนพ.ยง จะเห็นว่าตอนท้ายท่านให้ข้อมูลว่า เชื่อมั่นว่าระบบกักกันโรคของเรา 14 วัน จะทำให้เชื้อไม่เล็ดลอดออกไป และประการสอง สายพันธุ์อังกฤษความสามารถในการแพร่เชื้อดูเหมือนจะเร็วขึ้น ซึ่งก็จะคล้ายกับตอนแพร่ระบาดสายพันธุ์G ใหม่ๆ ก็คล้ายกัน แต่ความรวดเร็วก็ขึ้นกับหลายปัจจัย แต่วิธีการป้องกัน ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือบ่อยๆ ก็ยังใช้ได้ อย่างไรก็ตาม ความรุนแรงของโรค สายพันธุ์อังกฤษไม่ได้รุนแรงมากขึ้น ไม่ได้ทำให้เสียชีวิตมากกว่าปกติ และไม่มีผลต่อประสิทธิภาพวัคซีนที่กำลังผลิตอยู่ รวมทั้งระยะฟักตัวของโรคยังเท่าเดิม” นพ.โอภาส กล่าว
นพ.โอภาส กล่าวว่า อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านยังให้ความเห็นว่า ระบบกักกันโรคของไทย 14 วันยังเป็นมาตรฐานที่ไม่ทำให้โรคเล็ดลอดออกไปไม่ว่าสายพันธุ์ใด ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจ อย่างไรก็ตาม ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขจะมีการทบทวนข้อมูลทั้งหมด เพื่อให้เกิดความมั่นใจแก่ประชาชน โดยจะมีมาตรการแนะนำไปยังกระทรวงต่างประเทศให้ชะลอเที่ยวบินจากประเทศต้นทาง คือ อังกฤษไว้ก่อนจนกว่าจะมีข้อมูลต่างๆ ครบถ้วน
เมื่อถามว่า ผู้โดยสารสายการบินเดียวกันพบติดเชื้อแล้วหรือยัง นพ.โอภาส กล่าวว่า สำหรับไฟล์บิน 21 ธันวาคม ยังไม่ครบ 14 วัน แต่ทุกคนที่เข้ามาไม่มีรายใดตรวจพบคนติดเชื้อ ขอให้สบายใจ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้โดยสารกลุ่มนี้จะมีการติดตามอย่างใกล้ชิด และจะนำเรียนเป็นระยะต่อไป
เมื่อถามว่าย้ำว่าเชื้อที่กลายพันธุ์นั้นมีความสามารถในการแพร่เชื้อได้เร็วกว่าเดิมมากน้อยแค่ไหน และที่บอกว่าแพร่ได้ง่ายกว่าเดิมนั้นหน้ากากผ้ายังเอาอยู่หรือไม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าเชื้อที่กลายพันธุ์ของทางอังกฤษนั้นสามารถแพร่กระจายได้เร็วแค่ไหน ต้องรอดูว่าผู้โดยสารที่ร่วมเที่ยวบินเดียวกันนั้นมีการติดเชื้อเพิ่มหรือไม่ และเป็นสายพันธุ์เดียวกันหรือไม่ หากไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มก็คงไม่ได้แพร่เร็วมากนัก ส่วนเรื่องการป้องกันตัวนั้นยังคงเหมือนเดิม หน้ากากผ้า หน้ากากอนามัยยังสามารถป้องกันได้ ร่วมกับการเว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ
