ยังพุ่งไม่หยุด! ชลบุรีติดเชื้ออีก 50 ศรีราชามากสุด เหตุมาจากบ่อนการพนัน หาดบางแสนร้างไร้นักเที่ยว
ชลบุรี-ยอดติดโควิดพุ่งสูง 50 ราย พบมากที่ อ.ศรีราชา เหตุมาจากแหล่งการพนัน สถานบริการหาดบางแสนปิดเงียบตามคำสั่งจังหวัด เทศบาลเมืองแสนสุขตื่นตัวฉีดพ่นสารเคมีทั่วชายหาด ประธานหอการค้า 3 จังหวัด ยันโครงการ อีอีซี เกิดขึ้นยากเพราะการ์ดตกโควิดระบาด นักลงทุนไม่กล้าลงทุน
เมื่อวันที่ 5 มกราคม ที่บริเวณชายหาดบางแสน อ.เมือง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองแสนสุข พร้อม อสม.ได้ลงพื้นที่ทำความสะอาดบริเวณชายหาดบางแสน โดยการพ่นสารเคมีฆ่าเชื้อ รวมทั้งปรับแต่งภูมิทัศน์บริเวณชายหาด ปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันน้อยมาก ทำให้ชายหาดโล่งไม่มีคนมาเล่นน้ำทะเล นอกจากนี้ในช่วงคืนที่ผ่านมาบริเวณสถานบริการชายหาดบางแสน และถนนลงหาดบางแสนได้มีการปิดสถานบริการตามคำสั่งของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.ชลบุรี ทำให้เงียบเหงาไปถนัดตา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนการค้าขายอาหารและสินค้าในตัวเมืองชลบุรียังเปิดให้บริการตามปกติ บางร้านเน้นให้ลูกค้าซื้อไปรับประทานที่บ้าน หรือหากนั่งรับประทานก็จะเน้นในเรื่องการเว้นระยะห่าง บางแห่งมีการตรวจวัดอุณหภูมิ เพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ยังพบว่าบริเวณสะพานเลียบชายทะเล เทศบาลเมืองชลบุรี เทศบาลบางทราย ปกติจะมีประชาชนมานั่งพักผ่อนและรับประทานอาหารจำนวนมาก พบว่าหลายคนกลัวการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ไม่มีประชาชนออกมานั่งพักผ่อน
ที่บริเวณตลาดนัดศาลารวมใจชน อ.เมืองชลบุรี ปกติจะมีประชาชนมาซื้อสินค้ากันจำนวนมากพบว่า มีประชาชนมาจับจ่ายใช้สอยในการซื้อสินค้ากันน้อยมาก แม้จะมีมาตรการในการตั้งจุดคัดกรองก็ตาม ส่วนตลาดโต้รุ่ง หน้าอำเภอเมืองชลบุรี ปกติจะมีประชาชนมานั่งรับประทานอาหารกันจำนวนมาก พบว่ามีประชาชนมาซื้ออาหารหรือนั่งรับประทานอาหารกันน้อยมาก
จากการสอบถามนายกิตติ พิณยาธร อายุ 43 ปี เจ้าของร้านราชาปลาเผากล่าวว่า ทางจังหวัดชลบุรีประกาศมีโควิดระบาด ทำให้ตลาดเงียบไปเลย เดือดร้อนมาก เพราะไม่มีคนมานั่งรับประทานปลาเผากันเลย ค้าขายเหลือประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เพราะคนกลัวติดโควิด-19 กันมาก
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ของ จ.ชลบุรี พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 50 ราย จากพื้นที่ อ.เมืองชลบุรี 6 ราย อ.บางละมุง 4 ราย อ.ศรีราชา 32 ราย ส่วนใหญ่ติดจากการไปเล่นการพนัน อ.พนัสนิคม 1 ราย อ.บ้านบึง 5 ราย และติดจาก จ.ระยอง 2 ราย จากผู้ป่วยสะสมเดิม 390 ราย รวมทั้งหมด 440 ราย
นายสุนทร ธัญญวัฒนกุล ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 1 (อีอีซี. ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกที่ 2 นี้ เกิดผลกระทบอย่างมากมาย เกี่ยวกับนักลงทุนที่จะมาลงทุนตามโครงการต่างๆ ในพื้นที่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง เพราะไม่มั่นใจในเรื่องของการควบคุมการแพร่ระบาด เชื่อว่าโครงการ อีอีซี คงจะต้องชะลอออกไปก่อน จนกว่านักลงทุนจะเกิดความมั่นใจว่าจะไม่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
“การระบาดช่วงแรกยอมรับว่า ประเทศไทยมีการป้องกันและรักษาที่ดี ทำให้นักลงทุนเกิดความมั่นใจ และคิดว่าจะมาลงทุนในพื้นที่ 3 จังหวัดดังกล่าว แต่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบ 2 นี้ ยอมรับว่าหนักจริงๆ โครงการต่างๆ ที่คิดว่าหากลงทุนแล้วจะสร้างรายได้ให้กับประเทศจำนวนมาก ก็จะต้องงดไปก่อน จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคจะลดลงกลับคืนสู่ปกติ” นายสุนทรกล่าว
