‘ศิริราช’ ชี้ทั่วโลกฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว 46 ล้านคน กว่า 100 ล้านโดส แนวโน้มผู้ติดเชื้อลดลง
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ของโลก หลังมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการฉีดวัคซีน และภาวะแทรกซ้อนจากวัคซีน ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ Mahidol Channel ว่า ขณะนี้ทั่วโลกฉีดวีคซีนไปแล้ว 100 ล้านโดส ประชากรราว 46 ล้านคน
โดยสหรัฐอเมริกาฉีดให้กับประชากรแล้ว เกือบ 28 ล้านโดส คิดเป็นร้อยละ 7 ของจำนวนประชากร สาธารณรัฐประชาชนจีนฉีดแล้ว 23 ล้านโดส สหราชอาณาจักร ฉีดแล้วเกือบ 9 ล้านโดส และอิสราเอล ฉีดแล้ว 4.66 ล้านโดส คิดเป็น ร้อยละ 33.44 ของจำนวนประชากร โดยเป็นการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตามสัดส่วนประชากรในประเทศมากที่สุดของโลก
ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับผลข้างเคียงหลังได้รับวัคซีน ส่วนใหญ่พบอาการข้างเคียงไม่รุนแรง หายได้เองภายใน 1-2 วัน เช่น อาการปวดบวมแดงบริเวณที่ฉีด มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ หนาวสั่น และปวดข้อ ส่วนผลรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตพบน้อยมาก
อย่างไรก็ตาม หลังฉีดวัคซีนร่างกายจะกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน วัคซีนจึงไม่ได้มีผลป้องกันในทันที หลังฉีดวัคซีนยังคงต้องสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล่าสุดจากการสำรวจของหลายประเทศพบว่า ความกังวลเกี่ยวกับภาวะแทรกซ้อนของวัคซีนลดลงมาก ประชาชนตอบรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 มากขึ้น
ศ.นพ.ประสิทธิ์ เผยว่า ขณะที่การติดตามผลหลังการฉีดวัคซีน ในสหราชอาณาจักร เริ่มฉีดวัคซีนเข็มแรก วันที่ 8 ธันวาคม 2563 ขณะนั้นมีการติดเชื้อ 5-6 หมื่นคนต่อวัน ผ่านมาแล้วกว่า 1 เดือน จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง โดยวันนี้การติดเชื้อรายใหม่เหลืออยู่เพียง 1.8 หมื่นคนต่อวัน ขณะที่การเสียชีวิตก็มีแนวโน้มลดลง
ส่วนสหรัฐฯ เริ่มฉีดวัคซีนเข็มแรก วันที่ 14 ธันวาคม 2563 จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่จาก 2-3 แสนคนต่อวัน ปัจจุบันลดลงชัดเจน ยอดผู้ติดเชื้อรายวันไม่เคยถึง 2 แสนคน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตต่อวัน 3-4 พันคน ก็เริ่มลดลง
“สำหรับประเทศไทยกำลังพิจารณาเกณฑ์การให้วัคซีนโควิด-19 กับกลุ่มเสี่ยง แต่สิ่งที่ป้องกันตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพคือ สวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง” ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว
