ขสมก. แจงหลังพบพนักงานขับรถสาย 34 ติดโควิด
รายงานข่าวจากคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ขสมก. กระทรวงคมนาคม ได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวซึ่งเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติการป้องกันของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด
รายงานข่าวฯ ระบุต่อว่า แต่เมื่อวันที่ 9-12 กุมภาพันธ์ 2564 เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลประชาธิปัตย์ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอธัญบุรี ได้บูรณาการร่วมกันในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 บริเวณตลาดสุชาติและอาคารพาณิชย์โดยรอบอำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้ตรวจพนักงานขับรถโดยสารธรรมดา สาย 34 (ปฏิบัติหน้าที่ขับรถโดยสารกะบ่าย) เพศชายจำนวน 1 คน ซึ่งมีที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณตลาดสุชาติ โดยขณะเข้ารับการตรวจ พนักงานไม่ได้มีอาการเจ็บป่วยแต่อย่างใด ต่อมาเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้แจ้งผลการตรวจแก่พนักงานขับรถโดยสารคนดังกล่าว ว่าได้รับการติดเชื้อ จึงให้ไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
ทั้งนี้ หลังจากทราบผล ขสมก. ได้รับทราบข้อมูลดังกล่าว จากผู้อำนวยการเขตการเดินรถที่ 1 จึงได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ดังต่อไปนี้ 1.ขสมก. ได้มีการแจ้งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อแจ้งรายละเอียดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตามแนวทางปฏิบัติกรณีพบผู้ติดเชื้อฯ โดยได้ประสานเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดปทุมธานี
2.ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่วันที่ 1-12 กุมภาพันธ์ พนักงานผู้ติดเชื้อไม่ได้มีอาการเจ็บป่วย แต่อย่างใด ต่อมาเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พนักงานได้มาปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารธรรมดา สาย 34 หมายเลข 1-40063 ซึ่งรถออกจากอู่รังสิต เวลา 13.45 น. ถึงหัวลำโพง เวลา 15.00 น. และกลับถึงอู่รังสิต เวลา 19.28 น. ปรากฏว่าพนักงานมีอาการไข้ ปวดหัว และปวดเมื่อยร่างกาย นายท่าจึงให้ไปพบแพทย์ที่คลินิกเรือนแพทย์ และกลับไปพักผ่อนที่บ้าน
3.พนักงานผู้ติดเชื้อได้ปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารธรรมดา สาย 34 หมายเลข 1-40063 ในช่วงกะบ่าย ซึ่งเป็นกะสุดท้ายของแต่ละวัน จึงไม่มีพนักงานขับรถคนใดนำรถไปขับต่อ อีกทั้ง เมื่อพนักงานขับรถนำรถกลับเข้าอู่เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจในแต่วัน จะมีการฉีดพ่นทำความสะอาดภายในรถโดยสารทันที ด้วยผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70% จึงมั่นใจได้ว่ารถโดยสารขององค์การมีความสะอาด ปลอดภัยจากโควิด-19
นอกจากนี้ องค์การได้พักการใช้งานรถโดยสารคันดังกล่าว เป็นระยะเวลา 3 วัน เพื่อฉีดพ่นทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคภายในรถ รวมถึง อู่จอดรถ และท่าปล่อยรถโดยสาร และขสมก.ได้มีการตรวจสอบว่า พนักงานผู้ติดเชื้อได้ปฏิบัติหน้าที่กับพนักงานเก็บค่าโดยสารคนใดบ้าง ซึ่งขณะนี้ได้ให้พนักงานเก็บค่าโดยสารดังกล่าว หยุดงานไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว หากได้ผลเป็นประการใดจะแจ้งให้ทราบต่อไป
รายงานข่าวฯ ระบุว่า ขสมก. ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้แก่ การสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร การล้างทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ การฉีดพ่นทำความสะอาดภายในรถโดยสารด้วยแอลกอฮอล์ ทั้งก่อนและหลังนำรถออกวิ่งให้บริการประชาชน
