สธ. แจงข่าวเก่า ’10 ล็อกดาวน์’ เผยปัจจุบัน 35 จว. สั่งกักตัวผู้เดินทาง

สธ. แจงข่าวเก่า ’10 ล็อกดาวน์’ เผยปัจจุบัน 35 จว. สั่งกักตัวผู้เดินทาง

วันที่ 12 เมษายน ที่ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย กล่าวว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเรื่องรายชื่อ 10 จังหวัดล็อกดาวน์ห้ามเดินทางเข้าออก ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกระทรวงมหาดไทย (มท.) พบว่าเป็นข้อมูลเท็จและข้อมูลเก่า ปี 2563 ปัจจุบันยังไม่มีจังหวัดใดประกาศห้ามเดินทางเข้าออกจังหวัด

แต่มีคำสั่งจังหวัดประกาศให้กักตัวผู้ที่ออกเดินทางมาจากนอกพื้นที่ รวม 35 จังหวัด (ข้อมูลวันที่ 11 เม.ย.2564) แบ่งเป็น

ภาคเหนือ 11 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร เชียงใหม่  ตาก น่าน พะเยา เพชรบูรณ์ แพร่ ลำพูน อุทัยธานี นครสวรรค์ อุตรดิตถ์

Advertisement

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 14 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ นครพนม บึงกาฬ บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร  ยโสธร เลย สกลนคร หนองคาย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานีและ นครราชสีมา

ภาคกลาง ตะวันออก และตะวันตก 3 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท สระบุรี สิงห์บุรี

และภาคใต้ 7 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ตรัง นราธิวาส ปัตตานี พังงา สตูล และสงขลา

Advertisement

นพ.เอกชัยกล่าวว่า ส่วนกรณีข่าว รพ.เอกชนน้ำยาตรวจเชื้อโควิด-19 ไม่พอ เพราะรัฐเรียกคืนน้ำยา ตรวจสอบแล้วไม่มีนโยบายเรียกคืนน้ำยาตรวจเชื้อโควิดจาก รพ.เอกชน และน้ำยาตรวจยังมีเพียงพอ สาเหตุที่ รพ.เอกชนไม่รับตรวจ มาจากข้อจำกัดบางอย่าง รพ.จึงไม่สามารถให้บริการตรวจได้ ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำยาแต่อย่างใด

ทั้งนี้ กรมอนามัยทำแนวทางสำหรับผู้อยู่ในกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูง จำเป็นต้องกักตัว 14 วันซึ่งอาจอยู่ที่บ้านหรือคอนโด โดยให้ปฏิบัติตัวดังนี้ 1.วัดอุณหภูมิตัวเองทุกวัน หากเกิน 37.5 องศาเซลเซียส มีอาการทางเดินหายใจ คือ ไอ น้ำมูกไหล เจ็บคอ เหนื่อยหอบ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หรือบางคนมีอาการตาแดง ผื่นขึ้น ให้รีบแจ้งมาที่ 1422 เพื่อให้คำแนะนำประสานรับไปตรวจหรือรักษาต่อไป 2.หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดบุคคลอื่น โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง  3.มีน้ำดื่มแยกเฉพาะ แยกใช้ห้องน้ำ หากแยกไม่ได้ ให้ใช้เป็นคนสุดท้าย ทำความสะอาดทันทีที่ใช้ 4.งดกิจกรรมนอกบ้าน งดการสังสรรค์ งดการใช้ขนส่งสาธารณะ 5.ดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล แยกห้องนอน ไม่ใช้ข้องใช้ส่วนตัวร่วมผู้อื่น  6.แยกขยะทั่วไป ขยะปนเปื้อน 7.หากจำเป็นต้องพบผู้อื่น ต้องใส่หน้ากากทุกครั้ง และทิ้งอย่างถูกต้อง รายละเอียดดาวน์โหลดได้ที่หน้าเว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข กรมอนามัย และกรมควบคุมโรค

สำหรับสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงเกี่ยวข้องคนติดเชื้อโควิด จะต้องเช็ก 6 เช็ก คือ 1.เช็กสถานที่ ให้มั่นใจว่าผู้ป่วยไปใช้บริการจริงหรือไม่ 2.เช็กไทม์ไลน์ เพื่อคัดกรองอาการเจ้าหน้าที่ให้บริการ วันที่ผู้ติดเชื้อไปใช้บริการ 3.เช็กมาตรการ คือ DMHTTA  เช่น การเว้นระยะห่าง ใส่หน้ากาก ล้างมือ การตรวจวัดต่างๆ เป็นต้น 4.เช็กมาตรฐาน ดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติสถานประกอบการเมื่อสงสัยติดเชื้อ 5.เช็กความมั่นใจสถานประกอบการเอง โดยประเมินตัวเองผ่าน Thai Stop COVID และ 6.เช็กพนักงาน ตรวจสอบประวัติความเสี่ยงพนักงานก่อนเข้าทำงานทุกครั้ง โดยแอพพลิเคชันไทยเซฟไทย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image