แพทย์แจง พท.เสี่ยง กทม.-เชียงใหม่ เตือนระบาดในครอบครัว พบสูงเกือบ 100%
เมื่อวันที่ 13 เมษายน ที่ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ว่า ตัวเลขการระบาดระลอกใหม่เดือนเมษายน 2564 อยู่ที่ 5,597 ราย ยังพบมากที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) สูงถึง 1,625 ราย วันนี้พบ 194 ราย รองลงมาเป็นเชียงใหม่ภาพรวม 880 ราย พบ 251 ราย ทั้งนี้เชียงใหม่พบมากเนื่องจากมีการระบาดในนักเรียน นักศึกษา เพราะเป็นช่วงปิดเทอม จึงขอให้งดกิจกรรมที่มีรวมตัวกันในกลุ่ม ส่วนชลบุรีวันนี้พบ 97 ราย ซึ่งเป็นการติดเชื้อจากสถานบันเทิงต่อเนื่องที่ กทม. อย่างไรก็ตาม การระบาดจะอยู่ที่ กทม. และปริมณฑล รวมทั้งจังหวัดใหญ่ๆบางจังหวัดมีเหตุการณ์พิเศษ อย่าง จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีการแสดงคอนเสิร์ต มีคนรวมตัวกันหมู่บ้านจนเกิดการระบาด เป็นต้น
“สำหรับผู้ติดเชื้อรายวันข้อมูลตั้งแต่วันที่ 10-13 เมษายน 2564 สังเกตได้ว่าในวันนี้ (13 เมษายน) มีผู้ติดเชื้อ 42 จังหวัด เริ่มน้อยลงเมื่อเทียบจากวันอื่นๆ อย่างวันที่ 12 เมษายน พบติดเชื้อ 62 จังหวัด เนื่องจากการเดินทางของประชาชนเริ่มอิ่มตัวและน้อยลง แต่ยังมี 2 จังหวัดที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด คือ เชียงใหม่ และกทม. มีผู้ติดเชื้อแต่ละวันเกิน 100 ราย โดยคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ทำงานทุกวันต่อเนื่องเพื่อควบคุมโรคและลดการแพร่ระบาดลงให้ได้ ทั้งนี้ สถานการณ์ก็ยังต้องติดตามรายวันต่อเนื่อง” นพ.โอภาส กล่าว
นพ.โอภาสกล่าวอีกว่า รอบนี้การระบาดส่วนใหญ่เกิดในคนไทย ส่วนใหญ่อายุเฉลี่ย 20-29 ปี เป็นวัยเริ่มทำงาน นักเรียนนักศึกษา ผู้ชายและผู้หญิงใกล้เคียงกัน และระบาดกระจายหลายจังหวัด ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นจากสถานบันเทิงมีจำนวน 2,626 ราย (ข้อมูลถึง 12 เมษายน 2564) โดยกลุ่มนี้ที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงเป็นใครบ้างนั้น ข้อมูลวันที่ 1-12 เม.ย.64 พบว่า ในพื้นที่กทม. เป็นนักท่องเที่ยว 39% รองลงมาเป็นพนักงาน 31% ผู้สัมผัส 11% นักร้องนักดนตรี 6% และอื่นๆ 12%
ส่วนชลบุรีก็พบว่า เป็นนักเที่ยวถึง 63% สมุทรปราการก็นักท่องเที่ยวอีกเช่นกันถึง 68% ขณะที่ประจวบคีรีขันธ์ก็เช่นเดียวกันเป็นนักท่องเที่ยวถึง 78% ซึ่งเกิดจากการจัดคอนเสิร์ตใหญ่แห่งหนึ่งจนเกิดการติดเชื้อจำนวนมาก ดังนั้น เห็นได้ว่าการจัดกิจกรรมของคนหมู่บ้านเป็นจุดเสี่ยงสำคัญ ขอให้หลีกเลี่ยงจนถึงเดือน เม.ย.นี้เป็นอย่างต่ำ
“เมื่อพบการติดเชื้อก็จะมีการหาผู้สัมผัส โดยเฉพาะผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ต้องกักตัวอย่างน้อย 14 วันและตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการ โดยข้อมูลที่ผ่านมาพบว่า เมื่อมีผุ้ติดเชื้อ 1 คน จะมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอย่างน้อย 5 คน ซึ่งอัตราการติดเชื้อของผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอยู่ที่ 5-7%” นพ.โอภาส กล่าว
ทั้งนี้ นพ.โอภาส กล่าวว่า ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จะพบว่า หากเป็นครอบครัว พ่อแม่ ลูก สามีภรรยาโอกาสติดเชื้อ 40-50% บางกลุ่มสูงถึง 100% ส่วนผู้สัมผัสที่เกิดจากการพูดคุยกันมากกว่า 5 นาที หรืออยู่ในห้องเดียวกันมากกว่า 15 นาทีโดยไม่ใส่หน้ากากอนามัยมีโอกาสติดเชื้อต่ำกว่า 10% ส่วนกรณีกลุ่มเสี่ยงต่ำพบกับผู้ติดเชื้อไม่ถึง 5 นาที และสวมหน้ากากอนามัยทั้งคู่ สิ่งสำคัญขอให้สังเกตอาการ หากมีไข้ ไอ ขอให้ไปพบแพทย์
