บุคลากรทางการแพทย์ ทวีตรัว โอดไม่พร้อมฉีดวัคซีน แต่ถูกบังคับ หากปฏิเสธ ถูกกดดัน
เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม โซเชียลมีเดียทวิตเตอร์มีกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ร่วมกันเล่าสถานการณ์ที่กำลังเผชิญเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยส่วนมากเล่าว่า ถูกหน่วยงานที่สังกัด กดดันให้ฉีดวัคซีน ซึ่งทำให้บุคลากรทางการแพทย์เกิดความกังวลว่าหากฉีดวัคซีนแล้ว มีผลข้างเคียงที่รุนแรง ทางหน่วยงานก็ยังไม่มีมาตรการมารับผิดชอบชีวิตของบุคลากรทางการแพทย์
บุคลากรทางการแพทย์จำนวนมากในโซเชียลมีเดียระบุว่า หากปฏิเสธการฉีด มักจะมีการกดดันในรูปแบบต่างๆ เช่น การลงนามสัญญาว่าหากบุคลากรติดเชื้อโควิด-19 หน่วยงานจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น บางรายต้องเขียนบันทึกข้อความส่งให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ซึ่งอาจมีผลต่อการประเมินค่าจ้าง และบางรายถูกใช้คำพูดกดดันจากกลุ่มในโรงพยาบาล
โดยบุคลากรทางการแพทย์ในโซเชียลมีเดียส่วนมากมักแสดงความเห็นว่า ตนเองต้องการฉีดวัคซีน แต่ต้องเป็นวัคซีนที่สามารถเลือกได้ ไม่ควรมาบังคับกัน เพราะหากเกิดผลข้างเคียงจากวัคซีน ก็ไม่เห็นว่าจะมีมาตรการใดๆ มารองรับ หรือช่วยเหลือรับผิดชอบ
เช่น ทวีตของผู้ใช้ทวิตเตอร์ ระบุว่า “Sinovac รอบสาม ใครไม่ยืนยันไม่ฉีด ต้องเขียนใบบันทึกข้อความถึงผอ. และอาจจะมีผลต่อการประเมินเงินเดือน บอกว่าเป็นนโยบายที่ต้องทำตาม แต่นี่มันชีวิตชั้นมั้ย ชั้นควรจะมีสิทธิ์เลือกสิ ว่าจะฉีดหรือไม่ฉีด หรือจะฉีดตัวไหน ไม่ใช่มาทำเหมือนบังคับกันอย่างนี้”, “ขออนุญาตไม่บอกนะคะว่าที่ไหน แต่อ่านโควตแล้วเห็นว่าเป็นเหมือนกันหลายที่เลย และเรายังยืนยันไม่ฉีด เพราะทำใจยอมรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นไม่ได้จริงๆ (จนท.แผนก stroke ที่เราไม่ฉีดทั้งแผนก)”
“ของเราก็มีแบบสอบถาม ตอนแรกมีคนไม่ฉีดจำนวนนึง พอถึงวันบังคับให้ฉีดทุกคน แต่เรายืนยัยไม่ฉีด หน.ให้เขียนใบบันทึกข้อความ สงสัยเอาไว้เป็นหลักฐานตัดเงินเดือนแน่ๆ อะไรๆ ก็อ้างแต่เรื่องประเมิน”
“พอมีคนลงชื่อไม่ฉีด ก็จะเขียนประมาณว่า Ward A 100% Ward B 100% Ward c มี นส.C ไม่ฉีด เพราะไม่สะดวกใจฉีด อะไรงี้อ่ะ แล้วคือข้อความพวกนี้ถูกส่งลงไลน์วอร์ด ทุกคนเห็น”
“เงินกับชีวิตตนเอง อย่าเห็นแก่เงินเลย ถ้าจะลดเงินเดือน ไล่ออก ก็ช่างเขาเถอะ ถ้าเราตาย หรือพิการ ผอ. จะมาช่วยอะไรเรากับใครจะดูแลครอบครัวเรา”