ยอดประกันโควิดพุ่ง 14 ล้านฉบับ ปรับกรมธรรม์-ขึ้นค่าเบี้ยลดเสี่ยง
วันที่ 1 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอก 3 ในประเทศไทยที่มีความรุนแรงตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา จนกระทั่งทำให้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อต่อวันพุ่งเกินพันคนต่อวันมาอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลล่าสุด (30 เมษายน 2564) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รายงานตัวเลขผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 65,153 ราย เสียชีวิตรวมทะลุ 203 คน ทำให้ประชาชนให้ความสนใจกับการซื้อประกันโควิดในรูปแบบต่างๆ มากขึ้น
คนแห่ทำประกันโควิดทะลัก
นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันพบว่ายอดขายประกันโควิดเข้ามาเฉลี่ยวันละกว่า 1 แสนกรมธรรม์ โดยเฉพาะช่วงครึ่งหลังของเดือน เม.ย. 64 ยอดขายทะลักเข้ามาค่อนข้างมาก ตั้งแต่ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศทำสถิติทะลุหลัก 2 พันรายต่อวัน ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ในระดับกว่า 6 หมื่นรายแล้ว
ประเมินว่ายอดขายประกันโควิดเฉพาะเดือน เม.ย.น่าจะมากกว่า 3 ล้านกรมธรรม์ ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบปี 2563 ที่มียอดขายประกันโควิดทั้งสิ้น 9 ล้านกรมธรรม์ ขณะที่ในช่วงไตรมาส 1/64 มียอดขายรวม 1.3 ล้านกรมธรรม์
20% คนติดเชื้อทำประกัน
ทั้งนี้จากความเสี่ยงยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมที่สูงขึ้นทุกวัน เริ่มเห็นสัญญาณผลกระทบต่อแผนประกันโควิดแบบ “เจอจ่ายจบ” ซึ่งขณะนี้หลายบริษัทประกันที่ขายอยู่เริ่มประกาศยกเลิกขายรวมถึงการปรับเงื่อนไขความคุ้มครองใหม่ เนื่องจากประเมินแล้วจะส่งผลต่อความสามารถในการแบกรับความเสี่ยง ซึ่งจะกระทบต่อเงินสำรองของบริษัทตามมาได้
“สถิติปีก่อนคนติดเชื้อโควิดทำประกันแค่ 10% เท่านั้น แต่ต้นปี’64 สถิติสูงขึ้นเป็น 15% และช่วงพีกในเดือน เม.ย. น่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 20% ซึ่งปัจจุบันคนซื้อประกันโควิดเริ่มครบระยะเวลารอคอย 14 วัน (waiting period) ฉะนั้นช่วงนี้คนติดเชื้อมีโอกาสเข้ามาแจ้งเคลมประกันสูงขึ้นได้อีก” นายอานนท์กล่าว
จ่อขึ้นค่าเบี้ยประกันโควิด
นายอานนท์กล่าวว่า หากยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมปรับตัวขึ้นไปถึงหลักแสนราย ประเมินว่าภาคธุรกิจอาจต้องเริ่มมาทบทวนขอปรับขึ้นค่าเบี้ยประกันโควิดกับทาง คปภ. ซึ่งหากยอดผู้ติดเชื้อยังอยู่ในระดับ 2 พันรายต่อวัน คาดว่าประมาณปลายเดือน พ.ค.ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมจะทะลุแสนราย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เห็นภาครัฐออกมาตรการคุมเข้มมากขึ้น ก็คาดหวังว่ายอดผู้ติดเชื้อน่าจะลดลงได้บ้าง
ประกันโควิดทะลุ 13.8 ล้านฉบับ
นายอาภากร ปานเลิศ ผู้ช่วยเลขาธิการสายกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า จากข้อมูลอัพเดตล่าสุด ณ วันที่ 22 เม.ย. 64 พบว่ายอดขายประกันโควิดในระบบมีจำนวนทั้งสิ้น 13.8 ล้านกรมธรรม์ คิดเป็นเบี้ยประกันรับรวม 5,925 ล้านบาท โดยยอดเคลมประกันรวม 195 ล้านบาท แต่เฉพาะเดือน เม.ย. 64 ซึ่งมีการระบาดระลอก 3 อย่างรุนแรง ทำให้มียอดขายประกันโควิดสูงถึง 3.15 ล้านฉบับ โดยยอดเคลมประกันอยู่ที่ 24.6 ล้านบาท
ทั้งนี้ปัจจุบันมีบริษัทประกันภัยยื่นขอแบบประกันโควิดทั้งสิ้น 35 บริษัท แต่มีการเปิดขายจริงเพียง 23 บริษัท แยกเป็นบริษัทประกันวินาศภัย 16 บริษัท และบริษัทประกันชีวิต 7 บริษัท
ขณะเดียวกันก็เริ่มเห็นสัญญาณหลายบริษัทประกันทยอยเลิกขายแผนประกันโควิดแบบเจอจ่าย ซึ่งสามารถทำได้เลยโดยไม่ต้องขออนุญาตจาก คปภ. เช่นเดียวกับการปรับเงื่อนไขความคุ้มครอง ลดวงเงิน “เจอจ่ายจบ” และเพิ่มความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและโคม่าแทน รวมถึงการขึ้นค่าเบี้ยประกัน โดยที่เป็นการปรับขึ้นเบี้ยที่ยังอยู่ในช่วงราคาที่ได้รับความเห็นชอบจาก คปภ.
คปภ.ชี้เคลมต่ำไม่ใช่เวลาขึ้นเบี้ย
นายอาภากรกล่าวต่อว่า ปัจจุบัน คปภ.ยังไม่ได้รับสัญญาณที่ภาคธุรกิจจะมาขอปรับขึ้นเบี้ยประกันโควิดรอบใหม่ เพราะถ้าประเมินเบี้ยประกันโควิดที่เข้ามาเกือบ 6 พันล้านบาท ภาคธุรกิจจ่ายเคลมประกันยังไม่ถึง 200 ล้านบาท ซึ่งถือว่ายังน้อยมาก ขณะที่สถานการณ์ยอดผู้ติดเชื้อรายวันก็เริ่มปรับตัวลดลงบ้างแล้ว
นอกจากนี้เมื่อช่วงต้นปี’64 คปภ.ออกคำสั่งนายทะเบียนให้บริษัทประกันพิจารณาส่วนลดเบี้ยประกันโควิด 20% ให้แก่ลูกค้าด้วยซ้ำ เพราะสะท้อนความเสี่ยงจากยอดเคลมที่ต่ำ ทำให้ปัจจุบันราคากรมธรรม์ที่ขายอยู่ในตลาดเป็นระดับที่ยังต่ำกว่าเพดานที่ คปภ.กำหนด
ปรับแผนลดวงเงินคุ้มครอง
นายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เครือไทยโฮลดิ้งส์ (TGH) กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย. 64 บริษัทอาคเนย์ประกันภัยได้เลิกขายประกันโควิดเจอจ่ายจบแผน 3 เบี้ยประกัน 778 บาท วงเงินความคุ้มครอง 1.5 แสนบาท และแผน 4 เบี้ยประกัน 1,037 บาท ความคุ้มครอง 2 แสนบาท พร้อมเตรียมจะออกแผนประกันโควิดใหม่ ซึ่งความคุ้มครอง “เจอจ่ายจบ” ยังมีอยู่ แต่ลดวงเงินความคุ้มครองเหลือ 5 หมื่นบาท จากเดิมที่เป็นหลักแสนขึ้นไป และมาเพิ่มผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาล และอาการแพ้วัคซีนตามความต้องการลูกค้า ซึ่งก็จะมีการปรับราคาเบี้ยประกันใหม่ด้วย ปัจจุบันพอร์ตลูกค้าประกันโควิด (เจอจ่ายจบ) ของบริษัทอยู่ประมาณ 5 แสนกรมธรรม์
แห่หยุดขาย “เจอจ่ายจบ”
รายงานข่าวจากบริษัทวิริยะประกันภัย ระบุว่า บริษัทจะหยุดขายประกันโควิด-19 ซูเปอร์ชีลด์ แผน 2 เบี้ยประกัน 599 บาท วงเงินคุ้มครอง 1 แสนบาท ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 64 เนื่องจากมีลูกค้าสนใจซื้อเป็นจำนวนมาก จนเต็มความสามารถในการรับประกันต่อการจ่ายเคลมที่จะเกิดขึ้น
แหล่งข่าวจากบริษัทวิริยะประกันภัยกล่าวว่า ช่วงต้นเดือน พ.ค. บริษัทเตรียมออกแผนประกันโควิดใหม่ โดยยังคงมีความคุ้มครองเจอจ่ายจบ แต่ลดวงเงินเหลือหลักหมื่นเน้นเพิ่มค่ารักษาพยาบาล รวมถึงมีค่าชดเชยรายวัน ภาวะโคม่าและอาการแพ้วัคซีน เนื่องจากลูกค้าที่มีกำลังซื้ออยากขอเปลี่ยนเป็นแผนความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้น เพราะกังวลสถานการณ์โควิด ทางโรงพยาบาลไม่มีเตียงรองรับต้องไปรักษาตัวในฮอสพิเทล ดังนั้นประชาชนจึงให้ความสนใจกับการซื้อประกันโควิดที่มีความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้น
TQM ลูกค้าทะลักระบบรวน
ด้านนางนภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีคิวเอ็มคอร์ปอเรชั่น (TQM) กล่าวว่า ปัจจุบันยอดขายประกันโควิดผ่านช่องทางขายของบริษัททะลุ 1 ล้านกรมธรรม์ไปแล้ว ช่วงพีกสุดคือเดือน เม.ย.มียอดขายเข้ามากว่า 3-5 หมื่นกรมธรรม์ต่อวัน โดยประมาณ 80% เป็นการซื้อประกันแบบเจอจ่ายจบ และที่เหลือ 20% เป็นค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยรายวัน
“เนื่องจากในเดือน เม.ย. มีลูกค้าให้ความสนใจจำนวนมาก สอบถามเข้ามาเป็นหลักหมื่นรายทุกวัน จนบางวันกระทบต่อระบบของทีคิวเอ็มไปบ้าง ปัจจุบันระบบจองซื้อไม่มีปัญหา ส่ง SMS ยืนยันความคุ้มครองให้ลูกค้าได้ทันที แต่ระบบออกเอกสารกรมธรรม์ของบริษัทประกันภัยที่ต้องซับมิตมาให้จะล่าช้าอยู่บ้าง แต่คาดว่าตั้งแต่เดือน พ.ค.เป็นต้นไปจะกลับมาปกติ”
เช่นเดียวกับนางสาวปรมาศิริ มโนลม้าย รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจประกัน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยพาณิชย์ โพรเทค จำกัด กล่าวว่า การกลับมาแพร่ระบาดโควิดระลอกใหม่ ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเวลาอันสั้น ส่งผลให้ประชาชนตื่นตัวทำประกันโควิดเพิ่มขึ้น ทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่าที่มาต่ออายุ บริษัทจึงนำเสนอความคุ้มครองที่หลากหลายให้เลือกมากขึ้น ทั้งแบบเจอจ่ายจบ ค่ารักษาพยาบาล เงินชดเชยรายได้ และอาการแพ้วัคซีนโควิด
และเพื่อความสะดวกรวดเร็ว ลูกค้าสามารถซื้อได้ด้วยตนเองผ่านช่องทางแอปพลิเคชั่น SCB Easy ซึ่งเชื่อว่าเทรนด์การซื้อประกันด้วยตนเองจากแอปพลิเคชั่นจะเพิ่มขึ้น เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มความอุ่นใจในค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้น ยังช่วยให้ลูกค้าได้รับความคุ้มครองได้ง่ายๆ
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ