ผู้ว่าฯสมุทรสาคร ชี้มาตรการ ‘กักตัว 28 วัน’ ดักจับผู้ติดเชื้อโควิดเรือนจำ ได้ผลเยี่ยม

ผู้ว่าฯสมุทรสาคร ชี้มาตรการ ‘กักตัว 28 วัน’ ดักจับผู้ติดเชื้อโควิดเรือนจำ ได้ผลเยี่ยม

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ตามที่ทราบกันดีแล้วว่า ปัจจุบันมีเรือนจำหลายแห่งที่ต้องประสบปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยในส่วนของจังหวัดสมุทรสาครนั้น ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงก็ต้องยอมรับว่าแน่นอนจังหวัดสมุทรสาคร มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดมาก่อนจังหวัดอื่น แม้จะเป็นคนละคลัสเตอร์กัน โดยในส่วนของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคนนั้น สิ่งนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมานานแล้ว นับตั้งแต่ตอนที่ตนเองเข้าโรงพยาบาล แต่โชคดีที่ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้มีการวางแผนให้เรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร ได้สร้างโรงพยาบาลสนามไว้ส่วนหน้า รองรับผู้กักตัวได้ประมาณ 60 คน

ส่วนมาตรการคัดกรองผู้ต้องขังของเรือนจำจังหวัดสมุทรสาครนั้น ต้องยอมรับว่าเรามีมาตรการที่ค่อนข้างจะแข็งแรง โดยเฉพาะการรับผู้ต้องขังแรกเข้าที่แต่เดิมเคยกำหนดไว้ว่าจะต้องผ่านการกักตัวก่อน 14 วัน ต่อมาก็ปรับเป็น 21 วัน และล่าสุดเพื่อเพิ่มความเข้มข้นและสร้างความปลอดภัยให้แก่เรือนจำจังหวัดสมุทรสาครมากไปอีกระดับหนึ่ง ด้วยการกำหนดให้กักตัว 28 วัน ซึ่งมาตรการคัดกรองที่แข็งแรงนี้ ก็สามารถทำให้ดักจับพบผู้ที่ติดเชื้อได้ถึง 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2 ราย และครั้งที่สองเดือนเมษายนอีก 2 ราย ส่วนในช่วงเดือนพฤษภาคม พบเป็นเจ้าหน้าที่อีก 1 ราย รักษาตัวที่โรงพยาบาลนครท่าฉลอม โดยจากมาตรการดักจับนี้เอง ก็ทำให้ผู้พบผู้ติดเชื้อได้อย่างรวดเร็ว จนนำเข้าสู่การพักรักษาตัวอาการหายเป็นปกติเป็นที่เรียบร้อยหมดแล้ว ดังนั้น ณ ตอนนี้จึงยืนยันได้ว่ายอดผู้ติดเชื้อในเรือนจำจังหวัดสมุทรสาครเป็นศูนย์

Advertisement

นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนการคัดกรองหาผู้ติดเชื้อโควิดของเรือนจำจังหวัดสมุทรสาครนั้น ตนมองว่ายังไม่น่าเป็นห่วง เท่ากับปัญหาในเรื่องของความแออัดภายในเรือนจำ ซึ่งถ้ามีใครที่ติดเชื้อหลุดเข้าไปได้เพียง 1 คนเท่านั้น ก็จะทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคไปได้อย่างรวดเร็วมาก ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องมีมาตรการคัดกรองนักโทษใหม่หรือผู้ต้องขังแรกรับก่อนเข้าเรือนจำ รวมถึงนักโทษที่นำออกไปรักษาตัว หรือนักโทษที่มีความจำเป็นต้องออกไปภายนอกเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร จะด้วยกรณีใดก็แล้วแต่อย่างเข้มข้น เข้มแข็ง และเอาจริง ด้วยการกักตัว 28 วัน

ขณะที่ ข้อสั่งการพิเศษนั้น ก็คงเน้นไปที่ความห่วงใยเกี่ยวกับการคัดกรองผู้ต้องขังแรกรับ แต่จากข้อมูลของเรือนจำจังหวัดสมุทรสาครที่ทำงานร่วมกับทางโรงพยาบาลสมุทรสาคร แล้วมีตัวเลขเป็นศูนย์ที่ออกมา ณ ขณะนี้ ซึ่งเป็นตัวเลขจริงๆ นั้น จึงนับได้ว่ากระบวนการคัดกรองของเรือนจำจังหวัดสมุทรสาครช่วยให้การป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ในเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร เห็นผลการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพชัดเจน ขณะที่การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดระลอกที่ 2 หรือจากครั้งที่ผ่านมา ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ทำให้การควบคุมโรคโควิด 19 ในเรือนจำจังหวัดสมุทรสาครครั้งนี้ เป็นไปอย่างได้ผลและทันท่วงทีต่อการควบคุมสถานการณ์ เพราะเราได้เตรียมความพร้อมมาตั้งแต่ครั้งที่แล้วเป็นอย่างดี มาครั้งก็คือการเพิ่มความเข้มแข็งเอาจริงเอาจังมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดคือ การไม่พบผู้ติดเชื้อเลยแม้แต่รายเดียวนั่นเอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image