ข่าวดี!! สธ.เผยวัคซีนทางเลือกหลายเจ้าจ่อเข้าไทย ต.ค.นี้
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ว่ากรณีวัคซีนโควิด-19 ทางเลือก รัฐบาลมอบหมายให้ สธ.จัดหาวัคซีนให้ประชาชนเพื่อลดอัตราการป่วยและการเสียชีวิต แต่อย่างที่เราทราบกันว่าวัคซีนโควิด-19 มีความต้องการค่อนข้างสูงและขาดแคลน แต่ สธ.ได้ดำเนินการวางแผนจัดหาวัคซีนล่วงหน้า ซึ่งแผนการกระจายวัคซีนที่เป็นแผนหลักของประเทศไทย จากที่ประชุม ศบค.ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็น ผอ.ศบค. และเป็นประธานการประชุมในวันนี้ ได้เห็นชอบแผนการกระจายวัคซีนไปยังจังหวัดต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งแผนหลักจะเริ่มในเดือนมิถุนายนนี้ โดยมีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นวัคซีนหลัก ร่วมกับวัคซีนอื่นๆ ที่กำลังจัดหาเพิ่มเติม
นพ.โอภาสกล่าวว่า แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนมีนาคม เมษายน และพฤษภาคมที่ผ่านมา มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กระจายไปในหลายจังหวัดของประเทศไทย สธ.จึงได้ดำเนินการจัดหาวัคซีนมาเพิ่มเติม และจะกระจายไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ 2.6 ล้านโดส และมีการฉีดไปแล้ว 2.5 ล้านโดส จะเห็นได้ว่าการฉีดวัคซีนของประเทศไทยนั้นค่อนข้างจะมีศักยภาพและประสิทธิภาพ
“หลายคนอาจจะมองว่าการฉีดวัคซีนนั้นค่อนข้างน้อยและล่าช้า แต่ในมุมกลับกันนั้น อันนี้เป็นแค่กระบวนการฉีดก่อนแผนหลักในการดำเนินการ และตอนนี้เราจะมีวัคซีนเพิ่มมากขึ้น และเมื่อมีการดำเนินตามแผนหลักในเดือนมิถุนายนนี้ คาดว่าเราจะสามารถฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้มากขึ้นหลายเท่า ส่วนคำถามที่ว่า ภาคเอกชนนั้นสามารถนำเข้าวัคซีนมาได้หรือไม่ ต้องเรียนก่อนว่า ขณะนี้มีวัคซีนที่สำรองไว้ใช้ในสภาวะฉุกเฉิน เพราะฉะนั้น วัคซีนที่ขึ้นทะเบียนแล้วโดยบริษัทเอกชน และผ่านการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก็สามารถจัดซื้อมาจำหน่ายและแจกจ่ายภายในประเทศไทยได้ แต่ที่ผ่านมาบริษัทผู้ผลิตวัคซีนส่วนใหญ่อยากจะขายให้กับภาครัฐโดยตรง ซึ่งนั่นก็เป็นสิทธิของบริษัทผู้ขาย ไม่ได้เป็นข้อบังคับของภาครัฐแต่อย่างใด เพราะฉะนั้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน คณะกรรมการที่นายกฯได้จัดตั้งขึ้น ก็มีการมอบหมายให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) เป็นผู้อำนวยความสะดวกให้กับภาคเอกชนในการเป็นผู้สนับสนุน เจรจา ต่อรองนำวัคซีนเข้ามา” อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าว
นพ.โอภาสกล่าวว่า จะเห็นว่าภาครัฐบาลไม่เคยปิดกั้นการนำเข้าวัคซีนมาขายของภาคเอกชน ทั้งนี้ มีข่าวดีที่ว่ามีหลายบริษัทที่ทำการเจรจากันว่าจะนำวัคซีนเข้ามาในประเทศไทย ส่วนใหญ่ นอกจากแอสตร้าเซนเนก้า และซิโนแวค อีกหลายบริษัทวัคซีนมีแผนว่า จะมอบวัคซีนให้ประเทศไทยในไตรมาสที่ 4 ของปี ก็คือประมาณเดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป ก็มีการเจรจาอย่างเข้มข้น
“มีข่าวดีว่า มีหลายบริษัทเริ่มนำวัคซีนเข้ามาเสนอให้กับประเทศไทย ซึ่งก็ต้องรอฟังกันอีกครั้งถึงรายละเอียด เรื่องของการจัดซื้อวัคซีน ถ้าติดตามข่าวกัน เราได้มีการแจ้ง แถลงว่าจะนำวัคซีนเข้ามาเมื่อไรเสมอ ช่วงไหน มีการออกเอกสารประกอบอย่างไร รวมถึงรายละเอียดของราคาด้วย ซึ่งก็ได้แจ้งประชาชนอย่างโปร่งใสมาโดยตลอด” นพ.โอภาสกล่าว
