ศบค.เผยโควิดโลกดีขึ้น ไทยยังทรงตัว แจงคลัสเตอร์ใหญ่ราย จว. ‘คลองเตย’ ติดสะสม 1,524 ราย
เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ที่ ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) กล่าวว่า จํานวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10 จังหวัดแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร รายใหม่ 894 ราย สะสม ช37,436 ราย สมุทรปราการ 281 ราย สะสม 5,961 ราย เพชรบุรี 233 ราย สะสม 3,715 ราย นนทบุรี 129 ราย สะสม 6,288 ราย ปทุมธานี 98 ราย สะสม 3,234 ราย สมุทรสาคร 59 ราย 2,393 ราย ชลบุรี 52 ราย สะสม 4,393 ราย เชียงราย 45 ราย สะสม 624 ราย นครปฐม 35 ราย สะสม 1,193 ราย และ สงขลา 31 ราย สะสม 1,345 ราย
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า การรายงานผู้ติดเชื้อรายวัน พบว่า ผู้ติดเชื้อจากเรือนจำ ตั้งแต่ 21-27 พ.ค. สะสม 18,402 ราย ส่วนในตัวเลขวันนี้ที่พบสูงเนื่องจากเป็นการตรวจเชิงรุกรอบที่ 2 ส่วนการติดเชื้อนอกเรือนจำวันนี้พบ 2,083 ราย แบ่งเป็น จังหวัดอื่นๆ 588 ราย กทม.และปริมณฑลอีก 5 จังหวัดรวม 1,495 ราย ทั้งนี้ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ยังเป็นปัญหาของประเทศไทย เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึง 72% จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งประเทศ
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า แผนที่ประเทศไทย แสดงจำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน พบว่า พื้นที่สีขาว จังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่มี 22 จังหวัด ซึ่งทำให้เราดีใจขึ้นมาได้ ได้แก่ ตรัง พิษณุโลก ตาก อ่างทอง พิจิตร กำแพงเพชร นครพนม ยโสธร ตราด น่าน สุโขทัย พะเยา แพร่ อุตรดิตถ์ ชัยนาท หนองคาย พังงา อำนาจเจริญ แม่ฮ่องสอน อุทัยธานี บึงกาฬ และสตูล ส่วนพื้นที่สีเขียว จังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อ 1-10 ราย มี 39 จังหวัด
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า การรายงานสถานการณ์ระบาดแต่ละจังหวัด พื้นที่ กทม. พบใน ตลาดบางกะปิและชุมชนรอบๆ พบผู้ติดเชื้อใหม่ 5 ราย แต่ยอดสะสมในตลาดบางกะปิ 443 ราย แคมป์ก่อสร้าง 19 ราย, คลองเตย พบในชุมชนและตลาด ผู้ป่วยใหม่ 210 ราย สะสม 1,586 ราย เป็นการติดเชื้อกระจายอยู่เรื่อยๆ ซึ่งขอให้ประชาชนดูแลสุขอนามัยของตัวเองอย่างดี, ฝั่งธนบุรี ตลาดศาลาน้ำร้อน พบใหม่ 27 ราย สะสม 29 ราย และ เขตสัมพันธวงศ์ ตลาดสำเพ็ง พบ 49 ราย เป็นพื้นที่เคยพบผู้ป่วย 0 ราย แต่ตอนนี้ก็กลับมาเจออีกครั้ง
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า จ.นนทบุรี ในแคมป์คนงานก่อสร้าง พบใหม่ 38 ราย สะสม 564 ราย จ.ปทุมธานี ในตลาดสี่มุมเมือง พบใหม่ 48 ราย สะสม 1,524 ราย และตลาดแอร์ พบใหม่ 45 ราย สะสม 65 ราย จ.สมุทรปราการ โรงงานผลิตอาหารสำเร็จรูปจากสัตว์น้ำและเนื้อสัตว์ 116 ราย ซึ่งเป็นคลัสเตอร์ใหม่ ทั้งนี้ จ.เพชรบุรี โรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกส์ พบใหม่ 30 ราย สะสม 2,820 ราย ซึ่งกระจายใน 10 จังหวัด
จ.ชลบุรี พบใน อ เมือง โรงงานผลิตสายไฟ ผู้ป่วยใหม่ 7 ราย สะสม 142 ราย จ.ประจวบคีรีขันธ์ โรงงานสับปะรดกระป๋อง พบใหม่ 7 ราย สะสม 56 ราย จ.ระนอง แรงงานแพปลาชาวเมียนมา พบใหม่ 8 ราย สะสม 592 ราย จ.สงขลา โรงงานแปรรูปอาหารทะเล พบใหม่ 12 ราย สะสม 130 ราย กระจายใน 4 อำเภอ จ.นราธิวาส สัมผัสกันในชุมชน พบใหม่ 2 ราย สะสม 99 ราย
นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า แนวโน้มสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกดูเหมือนจะลดลง แต่ประเทศไทยเรา ยังคงตัวทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด การระบาดยังอยู่คล้ายกลุ่มก้อนเดิม แต่มีกลุ่มก้อนใหม่สลับแทรกขึ้นมา เช่น โรงงาน ซึ่งมีการแจ้งไปยังกระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม ขอให้ดูแลสภาพโรงงาน ดูแลความเป็นอยู่ของแรงงานอย่างใกล้ชิด และตรวจหาเชื้อแรงงาน แคมป์ก่อสร้าง และชุมชนแออัด ฝ่ายปกครองได้เข้าไปช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันสถานการณ์ชายแดนติดประเทศกัมพูชา ยังมีการเข้ามาแบบผิดกฎหมายอยู่
“ปัจจัยเสี่ยงยังมาจากการสัมผัสใกล้ชิดกัน เช่น มีกระป๋องน้ำผูกเอาไว้และกดน้ำดื่มร่วมกัน หรือแก้วคว่ำเอาไว้ ไม่ใช่การใช้แล้วทิ้ง ซึ่งทำให้มีการสัมผัสสารคัดหลั่งที่อยู่ในปาก หรือมือ ทำให้เกิดการแพร่เชื้อ ที่ประชุมศบค. จึงสั่งการให้ดูแลสุขอนามัยเจาะลงไปเป็นจุดๆ” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
