อนุทินเร่งประสาน ศบค.จัดสรรวัคซีนให้ กทม.เพิ่ม แก้ระบาดหนัก ยินดีมีอาสาจัดหาเพิ่ม แบบไร้ประโยชน์แอบแฝง
เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่ห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ บางแค นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด- 19 ที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางแค ว่า การฉีดวัคซีนนอกสถานพยาบาลที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางแค ถือเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และเอกชน เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับประชาชนในการให้บริการการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง การฉีดเป็นไปตามนโยบายของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ในส่วนของกรุงเทพมหานคร (กทม.) เห็นได้ชัดว่า สธ.จัดส่งมาตามคำร้องขอของกรุงเทพฯ ก่อนกระจายไปยังจุดฉีดทั้งในและนอกสถานพยาบาล แต่จากการมาตรวจเยี่ยมที่เดอะมอลล์บางแค มีความพร้อมรองรับคนได้วันละ 3,000 คน แต่ได้รับการจัดสรรวัคซีนเพียงวันละ 500 โดส ดังนั้น สิ่งที่อยู่ในหัวคือ การจัดสรรวัคซีนเพิ่ม ดังนั้น จะต้องหารือกับ สธ.และ ศบค.เพื่อทำการเพิ่มประสิทธิภาพในการฉีดให้ได้มากที่สุดครอบคลุมประชากรมากที่สุด
“จริงๆ กรุงเทพฯ ได้รับการจัดสรรวัคซีนจำนวนมาก 2 ล้านโดส เพราะมีการระบาดมาก ส่วนในต่างจังหวัดอื่นๆ นั้นสถานการณ์เบาลงแล้ว มีเพียง 3-4 จังหวัดที่ยังมีคลัสเตอร์อยู่ แต่ก็สามารถควบคุมได้ ดังนั้น วันนี้ปัญหาใหญ่คือกรุงเทพฯ ถ้าแก้ปัญหาในกรุงเทพฯได้เท่ากับแก้ปัญหาของประเทศไทยได้ เพราะกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางที่ผู้คนทั่วประเทศมาทำมาหากินมา ใช้ชีวิตและสัญจร ดังนั้นเราจำเป็นจะต้องให้ความสำคัญกับกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม หลังฉีดวัคซีนแล้วยังจำเป็นจะต้องมีมาตรการป้องกันตัวเองอย่างเข้มข้นคือ การเว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ และสวมหน้ากากอนามัย” นายอนุทินกล่าว
กรณีมีประกาศศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด-19 ในราชกิจจานุเบกษาให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สามารถใช้งบประมาณจัดซื้อวัคซีนเพื่อฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่ของตนเองได้ โดยระบุว่าสามารถจัดซื้อได้จากองค์การเภสัชกรรม สถาบันวัคซีนแห่งชาติ กรมควบคุมโรค สภากาชาดไทย ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ หรือหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่และอำนาจในการให้บริการทางการแพทย์หรือสาธารณสุข นายอนุทินกล่าวว่า การฉีดวัคซีนหากมีหน่วยงานใดเข้ามาให้การสนับสนุนช่วยเหลือและประโยชน์กับประชาชน สธ.ก็ยินดี และขออนุโมทนาสาธุ พร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่
นายอนุทินกล่าวว่า ในส่วนของ สธ.นั้น อปท.ยังไม่มีใครประสานมา ถ้าติดต่อมาก็ต้องมีการพิจารณา แต่เรื่องนี้ต้องชี้แจงว่า สธ.จัดซื้อนั้นมีการใช้เงินภาษีของประชาชน ดังนั้น วัคซีนที่ได้มาจะต้องเป็นวัคซีนที่ฉีดให้กับประชาชนฟรี ซึ่งขณะนี้ก็มีความครอบคลุมกลุ่มประชากร ดังนั้น ถ้าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะดำเนินการจัดซื้อและฉีดจะต้องดูแผนของ ศบค. ต้องไม่ซ้ำซ้อนกัน การจัดซื้อต้องเป็นไปตามกฎหมาย เป็นไปตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง เป็นไปตาม พ.ร.บ.ยา
“ย้ำว่าสิ่งที่ทำจะต้องเกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง แต่หากผลประโยชน์เกิดกับคนใดคนหนึ่งกระทรวงสาธารณสุขก็ไม่ยอม” นายอนุทินกล่าว
