ศบค.จัดทีมเคลื่อนที่เร็ว เร่งค้นหาผู้ติดเชื้อ ลง 69 ชุมชนครั้งแรก 15 ก.ค.นี้
วันที่ 14 กรกฎาคม พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวว่า ในวันที่ 15 กรกฎาคม จะให้ทีมเคลื่อนที่เร็วแบบเบ็ดเสร็จ (Covid-19 Comprehensive Response team : CCRT) จำนวน 69 ทีม ลงพื้นที่ใน 69 ชุมชนครั้งแรก และจะขยายให้ได้ 200 ทีมโดยเร็ว สอดคล้องกับนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ที่อยากเห็นการการรวมดูแลผู้ป่วย ที่เป็นเป็นความมือของภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน และเอ็นจีโอ เป้าหมายจะมีการรายงานความคืบหน้า 15-17 กรกฎาคม ซึ่งจะมีการรายงานอีกครั้ง
โดยหลักการทำงานจะเร่งระดมค้นหาและตรวจหาผู้ติดเชื้อในชุมชน นำไปสู่กระบวนการรักษา ทั้งการแยกกักที่บ้าน (Home Isolation) และแยกกัวตัวชุมชน (Community Isolation) โดยการตรวจจะใช้ Antigen test kit (ATK) เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจอย่างกว้างขวางที่สุด และตรวจอย่างรวดเร็ว เมื่อพบเชื้อก็จะให้มีการเข้าสู่ระบบการรักษาได้อย่างรวดเร็ว แยกผู้ป่วยออกจากชุมชน ลดการแพร่ระบาด ส่วนผู้ที่มีผลการตรวจเป็นลบก็อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจ เพราะ Antigen test kit อาจจะยังไม่แม่นยำเพียงพอ จับเชื้อได้ช้า ก็ขอให้กลุ่มเสี่ยงทำการตรวจซ้ำอีกใน 3-5 วัน
ส่วนนี้บุคลากรในพื้นที่จะประชาสัมพันธ์และให้ความรู้เพิ่มเติม และขอความร่วมมือสื่อมวลชน เรื่องของการตรวจและดูแลรักษา แยกกักที่บ้านหรือในชุมชน ยังเป็นมาตรการที่ประชาชนยังไม่เข้าใจ หรือเกิดการสับสน ในส่วนขอให้ฟังรายงานของกระทรวงสาธารณสุข โดยหลักการของเครื่องมือหรือกระบวนการเหล่าคือเน้นย้ำที่ความปลอดภัย ส่วนบางเรื่องที่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนก็ขออภัยด้วย เพราะต้องให้มั่นใจว่าเครื่องมือและกระบวนการต้องมีมาตรฐานเพียงพอ
สำหรับคลินิกเสริมความงาม ร้านตัดผม ร้านทำเล็บ และร้านสัก ในพื้นที่สีแดงนั้นเปิดได้หรือไม่นั้นว่า ในเบื้องต้น พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 27 ประกาศเน้นย้ำไปที่พื้นที่ 6 จังหวัด คือ กทม. นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร สมุทรปราการ และนครปฐม ส่วนพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดใน 4 จังหวัดภาคใต้ไม่ได้อยู่
ส่วนหลักการ กิจการใดเปิดได้หรือไม่ได้นั้น คือ 1.กลุ่มร้านหนังสือ แว่นตา เครื่องนุ่งห่ม เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์สำนักงาน เครื่องสำอาง เครื่องครัว คลินิกรักษาสัตว์ และร้านอาหารสัตว์ และ 2.สถานเสริมความงาม ร้านตัดผม ร้านทำเล็บ ร้านสัก 3.คลินิกทันตกรรม คลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก 4.ล้านบริการล้างรถ 5.ร้านซักรีด ถ้าอยู่พื้นที่ในห้างสรรพสินค้าหรือคอมมูนิตี้มอลล์ ให้หยุดดำเนินกิจการชั่วคราว แต่ถ้าอยู่ข้างนอกห้างสรรพสินค้า ให้ขึ้นอยู่กับอำนาจการตัดสินใจและให้ติดตามประกาศ ของคณะกรรมการโรคติดต่อพื้นที่ กทม.และปริมณฑล แต่ละจังหวัด