ไฟเซอร์ถึงไทยแล้ว 1.5 ล้านโดส สถานทูตสหรัฐเตรียมแถลงผ่านออนไลน์ 08.30 น. วันนี้

สถานทูตมะกันแถลงผ่านระบบออนไลน์ ‘ไฟเซอร์’ ถึงไทยวันนี้ 1.5 ล้านโดส ด้าน ส.ว.ระบุมะกันเตรียมบริจาคเพิ่มอีก 1 ล้านโดส กทม.ดีเดย์ฉีดวัคซีนให้ “พระ-สัปเหร่อ” 221 วัด

สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย เตรียมแถลงข่าวผ่านระบบออนไลน์เกี่ยวกับการมาถึงของวัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส ที่สหรัฐอเมริกาบริจาคให้กับประเทศไทย

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า จะจัดแถลงข่าวผ่านระบบออนไลน์ในวันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม ในเวลา 08.30-09.00 น. เกี่ยวกับการมาถึงของวัคซีนไฟเซอร์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพจำนวน 1.5 ล้านโดส ที่บริจาคโดยสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดมาถึงประเทศไทยในวันที่ 30 กรกฎาคม โดยการบริจาคครั้งนี้อยู่ภายใต้แผนการของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดี ที่จะแบ่งปันวัคซีนโควิด-19 จำนวน 80 ล้านโดส ของสหรัฐ ให้กับนานาประเทศทั่วโลกเพื่อช่วยยุติโรคระบาดใหญ่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 นี้

ขณะที่สำนักข่าววอยซ์ออฟอเมริกาภาคภาษาไทยรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม (ตามเวลาท้องถิ่น) ประเทศสหรัฐอเมริกา พ.ท.หญิง ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ วุฒิสมาชิกสหรัฐเชื้อสายไทย กล่าวว่า สหรัฐเตรียมส่งวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ให้ไทยทั้งสิ้น 2.5 ล้านโดส โดยจัดส่งชุดแรกให้เป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านโดส เนื่องจากตระหนักดีว่าโรคระบาดไม่จำกัดพรมแดน หากเกิดเหตุฉุกเฉินทางสาธารณสุขในภูมิภาคหนึ่งจะไม่มีภูมิภาคใดที่ปลอดภัย โดยทราบถึงประกาศล่าสุดที่ส่งวัคซีนโควิดไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านโดส (ให้แก่ไทย) ซึ่งที่จริงแล้วจะมีทั้งสิ้น 2.5 ล้านโดส แต่การจัดส่งชุดแรกมีวัคซีน 1.5 ล้านโดส

Advertisement

รายงานข่าวแจ้งว่า วัคซีนที่สหรัฐบริจาคให้ไทยรวม 2.5 ล้านโดสนั้น คือวัคซีนไฟเซอร์ล็อตแรก 1.5 ล้านโดส จะมาถึงไทยในสัปดาห์นี้ ขณะที่อีก 1 ล้านโดส ตามที่ ส.ว.ดักเวิร์ธระบุต้องรอการยืนยันจากทำเนียบขาวต่อไป

วันเดียวกันนี้ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานเขตบางกอกน้อย และโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ สำนักการแพทย์ ร่วมกับวัดศรีสุดารามวรวิหาร กำหนดให้บริการฉีดวัคซีนเชิงรุกแก่พระ สัปเหร่อ และมัคนายก ตลอดจนบุคลากรอื่นๆ ของวัดที่มีบทบาทสำคัญในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 เป็นสถานที่จัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อตลอดจนการจัดการฌาปนกิจ โดยนำร่องในพื้นที่กลุ่มเขตกรุงธนเหนือ และกลุ่มเขตกรุงธนใต้ จำนวน 15 เขต รวมทั้งสิ้น 221 วัด และจะขยายการฉีดวัคซีนให้แก่พระ สัปเหร่อ และมัคนายก ในพื้นที่กลุ่มเขตอื่นๆ ต่อไป

นอกจากนี้ สำนักอนามัยได้ออกข้อปฏิบัติในการจัดการศพผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด สำหรับผู้ปฏิบัติงานฌาปนสถาน โดยจะดำเนินการให้ความรู้และคำแนะนำในการฌาปนกิจผู้ป่วยโควิด-19 อย่างถูกวิธีให้กับพระและสัปเหร่อ ตลอดจนผู้มีหน้าที่จัดการพิธีศพเพื่อความปลอดภัยแก่ผู้ปฏิบัติงาน และลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อโรคโควิด-19

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image