โพลอนามัยชี้ งดกินร่วมกัน ปชช.ทำได้น้อยสุด ขอเข้มมาตรการครอบจักรวาล

โพลอนามัยชี้ งดกินร่วมกัน ปชช.ทำได้น้อยสุด ขอเข้มมาตรการครอบจักรวาล

​เมื่อวันที่ 3 กันยายน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังขยายเป็นวงกว้างและมีความต่อเนื่องในช่วงนี้ การป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) เป็นมาตรการที่ขอให้ปฏิบัติอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพราะจากผลสำรวจอนามัยโพล ประเด็น “คิดเห็นอย่างไร กับมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention for COVID-19)”

โดยได้แบ่งการสอบถามเป็น 2 กลุ่ม คือ เจ้าของหรือผู้ประกอบการ พนักงาน และอีกกลุ่มเป็นประชาชนทั่วไป ระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม – วันที่ 1 กันยายน 2564 พบว่าพฤติกรรมที่กลุ่มเจ้าของหรือผู้ประกอบการ พนักงาน ส่วนใหญ่ทำได้มากที่สุดคือล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้ง ร้อยละ 89.2 รองลงมาคือ แยกของใช้ส่วนตัวทุกชนิด ไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น ร้อยละ 83.5

ส่วนพฤติกรรมที่ทำได้น้อยที่สุด คือ งดกินข้าวร่วมกัน ร้อยละ 66.9 สำหรับกลุ่มประชาชนทั่วไปพบว่าพฤติกรรมที่ทำได้มากที่สุดคือ ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้ง ร้อยละ 83.8 รองลงมาคือ หากสงสัยว่าตัวเองมีความเสี่ยง จะตรวจด้วยชุดแอนติเจน เทสต์ คิท (ATK) หรือไปรับการตรวจรักษาที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน ร้อยละ 76.3 ส่วนพฤติกรรมที่ทำได้น้อยที่สุดคือ งดกินข้าวร่วมกัน ร้อยละ 51.9 จึงเป็นจุดคุมเข้มสำคัญที่ต้องขอความร่วมมือประชาชน รวมทั้งเจ้าของหรือผู้ประกอบการ พนักงาน งดการกินอาหารร่วมกันไปสักระยะหนึ่งก่อน หรือให้เหลื่อมเวลากันในช่วงการกินอาหาร เลือกกินอาหารที่ร้อนหรือปรุงสุกใหม่ และแยกของใช้ส่วนตัว เช่น จาน ชาม ช้อน ส้อม เป็นต้น เพื่อลดการแพร่และป้องกันการติดเชื้อโควิด-19

​“สำหรับการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาลนั้น เป็นการยกระดับการป้องกันการติดและการแพร่ของเชื้อโควิด-19 ด้วยหลักปฏิบัติ 10 ข้อสำคัญ ดังนี้ 1) ออกจากบ้านเมื่อจำเป็นเท่านั้น 2) เว้นระยะห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร ทุกสถานที่ 3) สวมหน้ากากอนามัยและทับด้วยหน้ากากผ้าตลอดเวลา ทั้งนอกบ้านและในบ้านและเมื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่น 4) ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ 5) หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้ากาก ใบหน้า ตา ปาก จมูก 6) ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ และผู้ที่เป็นโรคเรื้อรังให้เลี่ยงออกนอกบ้าน 7) ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคบนพื้นผิวที่สัมผัสบ่อย ๆ 8) แยกของใช้ส่วนตัวทุกชนิด ไม่ควรใช้ของร่วมกับผู้อื่น 9) งดกินข้าวร่วมกันและเลือกกินอาหารที่ร้อนหรือปรุงสุกใหม่ และ 10) หากสงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยง ควรตรวจด้วยเอทีเค หรือไปรับการตรวจรักษาที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image