สธ.อนุมัติ 3 สูตรฉีดวัคซีนไขว้ ทั้ง “ซิโนแวค-แอสตร้าฯ-ไฟเซอร์” ใช้ทั่วประเทศ
วันที่ 4 กันยายน กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อนุมัติให้มีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดไขว้ 3 สูตรใช้ทั่วประเทศ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 กันยายน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงว่า จากการประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 (ศปก.สธ.) ที่มี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ.เป็นประธาน มีมติอนุมัติสูตรการฉีดวัคซีนโควิด-19 แบบฉีดไขว้ 3 สูตร ได้แก่ 1.วัคซีนซิโนแวค เป็นเข็มแรก ตามด้วยวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เป็นเข็ม 2 ห่างกัน 3-4 สัปดาห์ กลุ่มเป้าหมายอายุ 18 ปีขึ้นไป
นพ.โสภณกล่าวว่า 2.สูตรวัคซีนแอสตร้าฯเป็นเข็มที่ 1 ตามด้วยวัคซีนไฟเซอร์ เป็นเข็มที่ 2 ห่าง 4-12 สัปดาห์ สำหรับกลุ่มที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และ 3.กรณีซิโนแวค 2 เข็ม รับการกระตุ้นด้วยแอสตร้าฯ เข็ม 3 ระยะห่าง 4 สัปดาห์ หลังฉีดซิโนแวคเข็ม 2 การออกสูตรดังกล่าวเพื่อเป็นแนวทางให้โรงพยาบาลต่างๆ นำไปใช้ในทิศทางเดียวกัน
“จะมีการฉีดไขว้แพร่หลายในเดือนตุลาคมนี้ เมื่อเรามีวัคซีนไฟเซอร์ที่มีการสั่งซื้อจัดส่งมอบรายเดือนประมาณ 10 ล้านโดส อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีการใช้อยู่บ้าง เนื่องจากมีวัคซีนไฟเซอร์เหลือจากการฉีดบุคลากรด่านหน้าไปแล้ว แต่มีจำนวนไม่มาก โรงพยาบาลก็นำมาให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงคือ ผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว ซึ่งเป็นกลุ่มที่เคยฉีดวัคซีนแอสตร้าฯเข็มแรกเมื่อเดือนมิถุนายน และครบกำหนดฉีดเข็ม 2 แล้ว เมื่อมาถึง รพ.ก็ฉีดไฟเซอร์ได้เลย หากมีเหลือและบูสเตอร์โดสเข็ม 3 สำหรับคนฉีดซิโนแวค 2 เข็ม ให้ฉีดเข็ม 3 ด้วยแอสตร้าฯ ระยะห่าง 4 สัปดาห์ หลังฉีดซิโนแวคเข็มที่ 2” นพ.โสภณกล่าว
นพ.โสภณกล่าวว่า สำหรับสูตรซิโนแวค-แอสตร้าฯ จากการศึกษาพบข้อมูลว่าปลอดภัย และตอบสนองภูมิคุ้มกันสูงป้องกันเชื้อเดลต้าได้ในระยะเวลารวดเร็ว
ผู้สื่อข่าวถามถึงการฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 ให้ประชาชนจะมีเกณฑ์พิจารณาอย่างไร นพ.โสภณกล่าวว่า อยู่ระหว่างการพิจารณาซึ่งจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้ น่าจะเริ่มจากคนที่อาจติดเชื้อแล้วจะมีอาการรุนแรง
นพ.โสภณกล่าวว่า ยังมีการประชุมหารือถึงกรณีคนที่หายป่วยจากโรคโควิด-19 แล้ว ที่มีจำนวนหลายแสนคน คณะกรรมการมีความเห็นตรงกันว่า หลังจากหายป่วยแล้วอย่างน้อย 1 เดือน และภายใน 3 เดือน ให้ฉีดวัคซีนกระตุ้น 1 เข็มด้วยวัคซีนแอสตร้าฯหรือไฟเซอร์โดยเร็ว เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันสูงขึ้นป้องกันการติดเชื้อซ้ำ ส่วนผู้ที่เคยได้รับวัคซีน 2 เข็ม แต่ยังติดเชื้อและเมื่อหายดีแล้ว ยังไม่ต้องฉีดบูสเตอร์โดสแต่อย่างใด ทั้งนี้ ผลการวิจัยวัคซีนสูตรไขว้นั้น มีความปลอดภัยและทำภูมิคุ้มกันขึ้นสูง ที่สำคัญหญิงตั้งครรภ์ก็สามารถฉีดได้
นพ.โสภณกล่าวว่า ยืนยันว่าในสิ้นปีนี้จะมีวัคซีนทั้งหมดรวม 140 ล้านโดส คือแอสตร้าฯ 61 ล้านโดส ซิโนแวค 31.5 ล้านโดส ไฟเซอร์ 31.5 ล้านโดส ซิโนฟาร์ม 11 ล้านโดส และโมเดอร์นา 5 ล้านโดส
“ขอให้ประชาชนมั่นใจเรื่องวัคซีน โดยเฉพาะในเดือนกันยายนนี้ ที่ประเทศไทยจะมีวัคซีนให้ฉีดประมาณ 15 ล้านโดส จากซิโนแวค 6 ล้านโดส แอสตร้าฯ 7 ล้านโดส และไฟเซอร์ 2 ล้านโดส” นพ.โสภณกล่าว
เมื่อถามว่าจากแผนการจัดหาวัคซีน พบว่ามีการสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคเพิ่มอีกแค่ 2 เดือน เดือนละ 6 ล้านโดส แปลว่าการฉีดวัคซีนสูตรไขว้จากนี้หากหมดล็อตนั้น แล้วการฉีดไขว้ในประเทศไทยจากนี้ จะมีเพียงแอสตร้าฯ เป็นเข็มแรก และตามด้วยไฟเซอร์ใช่หรือไม่ นพ.โสภณกล่าวว่า ใช่ แต่การฉีดหลังจากนั้น จะมีอยู่ประมาณ 3 แบบ คือ 1.แอสตร้าฯ 2 เข็ม 2.ไฟเซอร์ 2 เข็ม และ 3.ฉีดไขว้ด้วยแอสตร้าฯ เข็ม 1 ตามด้วย ไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 2
