อนุกก.วัคซีนฯ หนักใจกลุ่มไม่ฉีด จ่อถกเพิ่มแรงจูงใจ ดับฝันไฟเซอร์ 2 เข็ม เหตุมีไม่พอ
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เปิดเผยว่า สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่มีเป้าหมายการฉีดให้ได้ 100 ล้านโดส ภายในเดือนพฤศจิกายนี้ ขณะนี้มีการฉีดสะสม 85 ล้านโดส ขาดอีก 15 ล้านโดส ในการประชุมอนุกรรมการฯ วันนี้ ได้หารือกันในเรื่องที่แต่ละกระทรวงเสนอ เช่น กระทรวงคมนาคม เสนอว่าหากใครฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว จะได้ส่วนลดค่าเดินทางให้ 20% ดังนั้น หากได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนในส่วนนี้ เช่น จัดโปรโมชั่นให้กับผู้ฉีดวัคซีน จะทำให้เกิดแรงจูงใจ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรางวัลเล็กๆ ในพื้นที่ เช่น เขตสุขภาพที่ 10 จังหวัดมีการจับรางวัล แจกพัดลม หรือของใช้ต่างๆ ซึ่งส่วนนี้ มอบเป็นนโยบายให้แต่ละพื้นที่ แต่ก็ไม่ได้บังคับ เนื่องจากจะเกี่ยวข้องกับงบประมาณของพื้นที่นั้นๆ อย่างไรก็ตาม กรมควบคุมโรคจะหารือรายละเอียดเพื่อเสนอต่อ ศบค.ชุดเล็กต่อไป
“จะได้ 100 ล้านโดส เราต้องลงแรง ไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งต้องเร่งทำความเข้าใจเพื่อให้เห็นประโยชน์ของวัคซีน ส่วนมาตรการบังคับตามที่ปลัด สธ. ระบุนั้น ที่ประชุมก็เห็นด้วย เช่น ควรต้องตรวจเรื่องการฉีดวัคซีน ถึงจะเข้าพื้นที่สาธารณะได้” นพ.โสภณ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมา เราฉีดวัคซีนได้ค่อนข้างเร็ว แต่ขณะนี้เหลืออีก 15 ล้านโดส จะครบเป้าหมาย แต่เหตุใดจึงคิดว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก นพ.โสภณ กล่าวว่า กลุ่มที่เหลือ คาดว่าเป็นผู้ที่ยังลังเลที่จะฉีด รวมถึงยังมีความกังวลอยู่ อีกกลุ่มคือ คนที่อยากได้วัคซีนที่เลือกได้เอง และกลุ่มที่ยังรอวัคซีนทางเลือกโมเดอร์นา ที่จะเข้ามาอีก 5 ล้านโดส หากคิดในส่วนนี้ก็สูงถึง 1 ใน 3 ของ 15 ล้านโดสที่เหลือ ทั้งนี้ หากเราช่วยกันเต็มที่ ทั้งกระทรวงมหาดไทย (มท.) เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัด นำเป็นวาระจังหวัด ให้ผู้นำชุมชน นายอำเภอ ร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ตรวจสอบแต่ละหมู่บ้าน กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในกรณีที่เด็กอายุ 12-18 ปี ยังไม่ได้รับวัคซีน ก็ให้เร่งสำรวจให้เข้ารับวัคซีน
เมื่อถามว่า ในกรณีที่คนยังไม่รับวัคซีนจำนวนหนึ่ง ซึ่งอาจจะต้องการวัคซีนสูตรเดียวกัน เช่น ไฟเซอร์ 2 เข็ม หรือ แอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม ทาง สธ.จะต้องปรับเรื่องนี้อย่างไร นพ.โสภณ กล่าวว่า กรมควบคุมโรคจะไปดูวัคซีนว่ามีปริมาณเท่าไร เพราะหากจะฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม ก็เป็น 20 ล้านโดส ไฟเซอร์ตัวเดียวก็อาจจะไม่พอ เพราะต้องนำฉีดบูสเตอร์ โดส เข็มที่ 3 ด้วย ดังนั้น เรื่องนี้จะต้องขึ้นอยู่กับจำนวนวัคซีนที่มีอยู่ในขณะนี้จนถึงสิ้นปี
