ศบค.ห่วงช่วงปีใหม่ ย้ำ 5 จว.ได้รับอนุญาตจัดงานเข้มมาตรการป้องกัน เข้าร่วมเกินพันคนต้องจองล่วงหน้า

ศบค.ห่วงเทศกาลปีใหม่ ย้ำ 5 จังหวัดได้รับอนุญาตจัดงานเข้มมาตรการป้องกัน เข้าร่วมเกินพันคนต้องจองล่วงหน้า

เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) แถลงภายหลังการประชุม ศบค.ว่า 10 อันดับ จังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุด ดังนี้ กรุงเทพฯ 411 ราย สะสม 437,303 ราย ชลบุรี 175 ราย สะสม 111,495 ราย นครศรีธรรมราช 144 ราย สะสม 46,908 ราย สมุทรปราการ 87 ราย สะสม 131,663 ราย สงขลา 85 ราย สะสม 65,086 ราย ของแก่น 73 ราย สะสม 23,849 ราย ราชบุรี 60 ราย สะสม 42,076 ราย พัทลุง 59 ราย สะสม 13,267 ราย พิษณุโลก 59 ราย สะสม 9,304 ราย และเชียงใหม่ 56 ราย สะสม 28,612 ราย

พญ.อภิสมัยกล่าวว่า ศบค.ชุดเล็กได้รับรายงานจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด พบว่าการจัดงาน จัดกิจกรรมทางศาสนา ผู้ที่เข้าร่วมงานมักจะสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา แต่จะมีจุดอ่อนเมื่อพิธีกรรมสิ้นสุดจะมีการจัดเลี้ยงรับประทานอาหารร่วมกัน ทำให้มีโอกาสติดเชื้อ นอกจากนี้ ยังพบว่าในการจัดพิธีกรรมทางศาสนามีการจัดวงไพ่ วงพนันด้วย ดังนั้น ขอให้จังหวัดช่วยกำชับและขอความร่วมมือให้จัดพิธีกรรมอย่างระมัดระวังด้วย

“การได้รับวัคซีนสะสม ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์-23 ธันวาคม 2564 รวม 101,609,859 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น จำนวนผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 สะสม 50,861,722 ราย คิดเป็น 70.6% จำนวนผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 สะสม 45,016,506 ราย 62.5% และจำนวนผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 สะสม 5,731,631 ราย 8.0% ส่วนภาพรวมยอดฉีดวัคซีนวันที่ 23 ธันวาคม 2564 ยอดฉีดทั่วประเทศ 530,244 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 82,409 ราย เข็มที่ 2 196,779 ราย และเข็มที่ 3 240,042 ราย” พญ.อภิสมัยกล่าว

พญ.อภิสมัยกล่าวต่อว่า ผลการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในกลุ่มเป้าหมายแรงงาน หรือหรือเข้าถึงยาก ตามข้อมูลวันที่ 21 ธันวาคม 2564 มีดังนี้ แรงงานภาคประมงในจังหวัดชายทะเล 21 จังหวัด มีประชาการสัญชาติไทย จำนวน 18,142 ราย ฉีดได้ 17,645 ราย ประชากรที่มิใช่สัญชาติไทย จำนวน 35,609 ราย ฉีดได้ 33,675 ราย ผู้ที่อยู่อาศัยพื้นที่พักพิงชั่วคราว จ.ราชบุรี กาญจนบุรี ตาก และแม่ฮ่องสอน มีประชากรที่มิใช่สัญชาติไทย จำนวน 77,431 ราย ฉีดได้ 16,184 ราย และคนไทยประจำเรือไทย หรือผู้ที่ปติบัติงานบนเรือ ในจังหวัดชายทะเล 21 จังหวัด มีประชากรคนไทย จำนวน 328 ราย ฉีดได้ 62 ราย

Advertisement

“ศบค.เป็นห่วงการจัดงานเทศกาลปีใหม่อย่างมาก ซึ่งวันนี้มีจังหวัดที่กำหนดเป็นพื้นที่จัดงานเทศกาลปีใหม่ คือ ภูเก็ต เชียงใหม่ นครราชสีมา อยุธยา และ ระยอง เข้ามารายงานความคืบหน้า ทั้งนี้ ขอชื่มชมทุกจังหวัดที่ทำการบ้านอย่างหนัก มีการประชุมหารือทุกภาคส่วน ภาคเอกชนเข้ามาร่วมมืออย่างเต็มที่ ขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการด้วย

“การเข้าร่วมเทศกาลปีใหม่ที่มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 1,000 คน จะต้องจองคิวล่วงหน้า โดยมีการดำเนินการระหว่างการจัดกิจกรรม ดังนี้ ประชาชนลงทะเบียนจองคิดเข้างานผ่าน แอพพลิเคชั่น Que Q มีการจำกัดผู้ร่วมงานให้เหมาะสมกับพื้นที่ ผู้เข้าร่วมงานต้องได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม มีจุดคัดกรองผู้เข้าร่วมกิจกรรม ตรวจ ATK ก่อนเข้าร่วมกิจกรรม มีการลงทะเบียนผ่านไทยชนะ กำหนดเส้นทางสัญจรในบริเวณพื้นที่การจัดกิจกรรม จัดพื้นที่แบบปิดมีรั้วรอบขอบชิด สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า มีจุดบริการแอลกอฮอล์เจลในบริเวณจัดกิจกรรม ทำสัญลักษณ์ทำหรับผู้ผ่านการคัดกรอง กำหนดจุดเว้นระยะห่างทางสังคม ภายในงานมีการทำความสะอาดโต๊ะ เก้าอี้ และอุปกรณ์ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ และชำระเงินผ่านระบบ Mobile Banking” พญ.อภิสมัย กล่าว

พญ.อภิสมัยกล่าวว่า สธ.ขอเน้นย้ำมาตรการไทยเซฟไทย ทุกคนก่อนเดินทางและเข้าร่วมกิจกรรมขอให้ประเมินเมินตนเองผ่านไทยเซฟไทยด้วย ขอให้ตรวจสอบตัวเองให้มั่นใจ การไปเที่ยวก็จะมีความมั่นใจทั้งต่อตนเองและบุคคลอื่น ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนการ์ดอย่าตก และศึกษามาตรการจัดงานของแต่ละพื้นที่ แต่ละจังหวัดด้วย พร้อมขอให้จังหวัดเตรียมแผนรองรับฉุกเฉินไว้ด้วย เพื่อให้จัดงานปีใหม่อย่างปลอดภัย ส่วนงานปีใหม่ในกลุ่มเล็กๆ สำหรับคนรู้จัก คนในครอบครัว ซึ่ง ศบค.เป็นห่วงเช่นกัน เพราะการจะเห็นติดเชื้อที่มาจากกลุ่มคนในครอบควัร ดังนั้น ขอให้ตรวจ ATK ด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจให้ตนเองและผู้อื่น

Advertisement

พญ.อภิสมัยกล่าวเพิ่มเติมว่า กรมควบคุมโรคได้รายงานการยกเลิกลงทะเบียนผ่านระบบเทสต์แอนด์โก เมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา โรงแรมและร้านอาหารมีคำถามเข้ามามากพอสมควรในเรื่องของการจัดการ สิ่งที่ขอเน้นย้ำคือโรงแรมต้องตรวจสอบเอกสารให้ชัดเจน คือเอกสารการฉีดวัคซีน เอกสารการตรวจ PCR 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง รวมทั้งการเข้ามาถึงประเทศวันแรกต้องมีการตรวจ PCR ด้วย ทั้งนี้ ขอให้โรงแรมตรวจสอบที่พักของนักท่องเที่ยวในวันที่ 5 และ 6 ว่าหากยังอยู่ในพื้นที่ให้ประสานตรวจ PCR ซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งการตรวจครั้งที่ 2 รัฐบาลจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งของคนไทยและชาวต่างชาติ อย่างไรก็ตาม ช่วงการตรวจครั้งที่ 2 นักท่องเที่ยวอาจจะเดินทางไปจังหวัดอื่น ขอให้โรงแรมประสานไปยังจังหวัดนั้นๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวมาตรวจเป็นครั้งที่ 2 ด้วย

“แนวทางการตรวจหาเชื้อโควิดครั้งที่ 2 สำหรับเข้าราชอาณาจักรประเภทเทสต์แอนด์โกและแซนด์บ็อกซ์ ผู้ที่ลงทะเบียนและได้รับอนุมัติตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2564 ไม่รวมผู้ที่ลงทะเบียนหลังวันที่ 22 ธันวาคม มีดังนี้ สธ.จัดทำแนวทางการตรวจและการเบิกจ่ายค่าตรวจ และแจ้งสถานพยาบาล โดย ททท.ชี้แจงแนวทางให้โรงเรียน/ที่พัก ส่วนกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) จะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบ

“การเข้าตรวจครั้งที่ 2 กรณีพักในพื้นที่เดิม และโรงพยาบางคู่ปฏิบัติการ (กรณีอยู่ในรายชื่อโรงพยาบาลที่รับการตรวจหาเชื้อครัง้ที่ 2 และ รพ.รัฐที่กำหนด) แจ้งผู้เดินทางเพื่อนัดหมาย การตรวจในวันที่ 5-6 ของวันเดินทาง กรณีย้ายพื้นที่พำนัก ให้โรงแรมแจ้งผู้เดินทางให้ไปโรงพยาบาลใกล้บ้าน/ที่พัก ส่วนโรงแรมให้บันทึกรายละเอียดการเดินทางในโปรแกรม COSTE ว่าไปจังหวัดใด ทั้งนี้ หลังการตรวจครั้งที่ 2 แนะนำให้หลีกเลี่ยงที่ชุมชน เพื่อรอผลตรวจ กรณีพบเชื้อโรงพยาบาลที่ตรวจจะทำการดูแลรักษาพยาบาลตามแนวทางที่กำหนด และโรงพยาบาล” พญ.อภิสมัยระบุ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image