โอมิครอน ยึดพื้นที่ไทย 80% สธ.คาด สิ้นเดือนคลุมทั่วประเทศแทนเดลต้า

โอมิครอน ยึดพื้นที่ไทย 80% สธ.คาด สิ้นเดือนคลุมทั่วประเทศแทนเดลต้า

เมื่อวันที่ 21 มกราคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงรายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า จากการเฝ้าระวังสายพันธุ์เชื้อโควิด-19 ที่ระบาดในประเทศไทย วันนี้ไม่มีจังหวัดไหนที่ไม่พบเจอเชื้อโอมิครอน โดยพบแล้วทุกพื้นที่ ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 17,021 ราย จังหวัดที่สูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี ภูเก็ต สมุทรปราการ และ เชียงใหม่ เพิ่มขึ้นกว่า 200 ราย และเป็นการติดเชื้อในพื้นที่ร้อยกว่าราย แนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยผู้เดินทางมาจากต่างประเทศวันนี้ ร้อยละ 97 เป็นการติดเชื้อโอมิครอน ดังนั้น คนที่ตรวจหาเชื้อพบผลบวก ก็เชื่อได้เลยว่าเป็นโอมิครอนเกือบทั้งหมด

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ส่วนกลุ่มในประเทศก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา จะตรวจโดยตรวจกลุ่มเดินทางมาจากต่างประเทศ และเดินทางผ่านชายแดนเข้ามาทุกราย ด้วยวิธี RT-PCR และจำนวนหนึ่งจะส่งมาถอดรหัสพันธุ์กรรมทั้งตัว โดยสุ่ม 140 ตัวอย่าง ต่อศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งมี 15 แห่งทั่วประเทศ และครึ่งหนึ่งจะถอดรหัสพันธุ์กรรมทั้งตัว ส่วนกลุ่มอื่นๆ เช่น การสุ่มในภาพรวมจากผลบวกในแต่ละวัน คลัสเตอร์การระบาด กลุ่มที่ได้วัคซีนแล้ว และกลุ่มที่มีอาการเสียชีวิต บุคลากรการแพทย์ คนที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นต้น

“ข้อมูลในช่วงวันที่ 11-17 มกราคม 2565 ภาพรวมประมาณ ร้อยละ 87 แต่เฉพาะคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ร้อยละ 97 จาก 1,437 ตัวอย่าง ขณะที่ในประเทศตรวจ 2,274 ตัวอย่าง พบเป็นเชื้อโอมิครอน ร้อยละ 80 เชื้อเดลต้า ร้อยละ 20 เป็นสัดส่วนที่น่าจะใกล้ความเป็นจริงในภาพรวมของประเทศ” นพ.ศุภกิจ กล่าว

Advertisement

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า สำหรับการตรวจสายพันธุ์ย่อยในประเทศไทย ในกลุ่มคนทั่วไป วันนี้สัดส่วนที่เจอเชื้อโอมิครอน ร้อยละ 85 เชื้อเดลต้า ร้อยละ 15 แต่มีเชื้อเดลต้าสูงกว่าค่าเฉลี่ยในกลุ่มติดเชื้ออาการรุนแรง หรือเสียชีวิต พบประมาณ ร้อยละ 33 หรือ 2 เท่า ของกลุ่มแรก อันนี้เป็นเครื่องยืนยันว่าสายพันธุ์โอมิครอนรุนแรงน้อยกว่าเชื้อเดลต้าแน่นอน

“ส่วนกลุ่มที่วัคซีนครบถ้วน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มฉีด 2 เข็ม พบเชื้อเดลต้าพอสมควร บุคลากรการแพทย์ร้อยละ 25 เป็นเชื้อเดลต้า และสุดท้ายที่น่าสนใจ 8 ราย ที่มีการติดเชื้อซ้ำเป็นเชื้อโอมิครอน ร้อยละ 100 จากเดิมคนที่ติดเชื้อเดิม เช่น เชื้อเดลต้า จะมีภูมิสูง แต่ยังสามารถติดเชื้อซ้ำเป็นเชื้อโอมิครอนได้ สะท้อนว่า ภูมิเดิมที่มีต่อเชื้อเดิมป้องกันเชื้อโอมิครอนไม่ได้” นพ.ศุภกิจ กล่าวและว่า ในเชิงพื้นที่ตามเขตสุขภาพต่างๆ หลายเขตขึ้นไป ร้อยละ 70-80 ที่เพิ่มมาก คือ เขตฯ 4,6,7 ขึ้นไปเกือบ ร้อยละ 90 และเขตฯ 13 กรุงเทพฯ ร้อยละ 86 ส่วนใหญ่เป็นเชื้อโอมิครอน ที่เหลือลดลง แต่ที่น่าสังเกตคือเขตฯ 12 หรือชายแดนใต้ ครึ่งหนึ่งเป็นเชื้อเดลต้า ดังนั้น พื้นที่นี้มีลักษณะชุมชนแตกต่างจากที่อื่นๆ เช่น ไม่มีสถานบันเทิง และไม่มีการรั่วไหลมาจากมาเลเซีย คนมาจากต่างประเทศก็ไม่ได้ไปในพื้นที่มากมาย ทำให้ครึ่งหนึ่งยังเป็นเชื้อเดลต้า แต่ในที่สุดจะถูกแทนที่ด้วยเชื้อโอมิครอนอยู่ดี

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า จากข้อมูลดังกล่าวนำมาสู่ข้อสรุปว่า เชื้อโอมิครอนมีการระบาดเร็ว คนที่มาจากต่างประเทศ ร้อยละ 97 เป็นเชื้อโอมิครอน ดังนั้น จากนี้อาจจะไม่ต้องตรวจหาสายพันธุ์แล้ว แต่ให้สันนิษฐานเลยว่าเป็นเชื้อโอมิครอน ส่วนในประเทศเชื้อโอมิครอน ร้อยละ 80 เชื้อเดลต้า ร้อยละ 20 ส่วนผู้เสียชีวิต ยังเกิดจากเชื้อเดลต้าเกินค่าเฉลี่ย ดังนั้น อย่าสันนิษฐานว่าติดเชื้อตอนนี้เป็นเชื้อโอมิครอนแล้วอาการไม่รุนแรง แต่แท้จริงอาจจะเป็นเชื้อเดลต้าก็ได้ กลุ่มที่ติดเชื้อซ้ำ เกิดจากเชื้อโอมิครอน เพราะฉะนั้น เราจะเห็นข้อมูลออกมาเรื่อยๆ

Advertisement

“ดูข่าวนักการเมืองใหญ่บอกว่าฉีดวัคซีนแล้ว เคยติดเชื้อแล้ว ยังเป็นเชื้อโอมิครอนซ้ำได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเชื้อโอมิครอนหลบวัคซีนได้ วัคซีน 2 เข็ม อาจจะไม่เพียงพอป้องกันการติดเชื้อ และคาดว่าสิ้นเดือนนี้ ภายในประเทศจะเป็นเชื้อโอมิครอนเท่ากับคนเดินทางมาจากต่างประเทศ และเชื้อเดลต้าจะหายไปทั้งหมด” นพ.ศุภกิจ กล่าว

ทั้งนี้ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า การตรวจพันธุ์กรรมก็อาจจะลดลง แต่ยังทำอยู่เพื่อดูว่าเชื้อโอมิครอนในประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่ อาจจะมีการกลายพันธุ์เพิ่มเติม รวมถึงเฝ้าระวังคนเดินทางมาจากต่างประเทศด้วย และแม้แต่เชื้อเดลต้าเดิม เราก็พบเชื้อเดลต้าที่มีปัญหามากขึ้นเช่นกัน จึงต้องเฝ้าระวังต่อไป ดังนั้น ยังต้องอยู่กับเชื้อโอมิครอน ถ้าเขาไม่มีความรุนแรงมากนัก ทุกอย่างอาจจะง่ายขึ้นในการดำเนินการ และยังสนับสนุนฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ไม่ว่าสูตรไหน ลดการระบาดของเชื้อโอมิครอน ลดอาการหนักและเสียชีวิตได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image