‘หมอธีระ’ ชวนจับตา โควิดหลังสงกรานต์ หวั่นเชื้อพุ่ง 3 เท่า ห่วงช่วงเด็กเปิดเทอม

หมอธีระ ชวนจับตาโควิดหลังสงกรานต์ หวั่น! ติดเชื้อพุ่ง 3 เท่า แบบปี 64 ห่วงเด็กเปิดเทอม ย้ำผู้ปกครองเฝ้าระวัง

เมื่อวันที่ 17 เมษายน รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ประเมินสถานการณ์โรคโควิด-19 ของประเทศไทย ในช่วงเทศกาลหลังสงกรานต์ ว่า ไทยผ่านช่วงพีคมาตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2565 ขาลงใช้เวลาราว 1.5 เท่าของขาขึ้น ตามลักษณะ ที่เห็นจากธรรมชาติการระบาดของประเทศอื่นๆทั่วโลก จึงสังเกตได้จากภาพที่ 3 และ 4 (ภาพด้านล่าง) ว่า กราฟการระบาดที่แสดงจำนวนการติดเชื้อจากรายงานทางการ (RT-PCR) รวมกับจำนวน ATK มีลักษณะเหมือนกับต่างประเทศ

ทั้งนี้ รศ.นพ.ธีระ ระบุว่า ด้วยเงื่อนไขของไทย ที่มีเสรีการใช้ชีวิตมากขึ้น กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ร่วมกับเทศกาลหยุดยาวสงกรานต์ ก็จะมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการปะทุระบาดหนักมากขึ้นได้ คล้ายกับหลายประเทศในยุโรป ซึ่งส่วนใหญ่จะปะทุจนทำให้จำนวนการติดเชื้อต่อวันสูงขึ้นเป็น 2-3 เท่าของ baseline (เส้นพื้นฐาน) ก่อนเกิดการปะทุ ภายในเวลา 3-4 สัปดาห์ ดังนั้น หากยอด RT-PCR รวมกับ ATK ในจุดที่ต่ำสุดอยู่ราว 30,000 ราย การปะทุก็น่าจะทำให้เกิดจำนวนติดเชื้อมากขึ้นราว 2-3 เท่า ถ้าเป็นไปตามลักษณะของต่างประเทศ

“แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ สงกรานต์ปีที่แล้ว ในช่วง 2 สัปดาห์หลังของเดือนเมษายน เราพบว่าการติดเชื้อเฉลี่ยต่อวันสูงขึ้นเป็น 3 เท่า ของช่วงก่อนสงกรานต์ และเกิดผลกระทบต่อเนื่องไปในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ที่มีจำนวนสูงขึ้นไปอีกเป็น 2 เท่าของปลายเดือนเมษายน” รศ.นพ.ธีระ ระบุ

ทั้งนี้ รศ.นพ.ธีระ ระบุอีกว่า คงต้องติดตามดูต่อไปว่า การระมัดระวัง ป้องกันตัวของเราทุกคนจะช่วยลดโอกาสเกิดการปะทุซ้ำได้มากน้อยเพียงใด เพราะเดือนพฤษภาคมจะมีการเปิดเทอมของเด็กๆ ซึ่งหากจำนวนติดเชื้อในชุมชนสูงมาก ก็คงน่าเป็นห่วง เพราะมีเด็กเล็กอีกจำนวนไม่น้อย ที่ไม่ได้อยู่ในช่วงอายุที่จะรับวัคซีนได้ และมีอีกไม่น้อยที่แม้อยู่ในช่วงอายุที่รับวัคซีนได้ ก็ยังไม่ได้ไปรับ และย้ำว่า การติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนในเด็กเล็ก นำไปสู่การเจ็บป่วยและเสียชีวิตได้มาก ผู้ปกครองควรดูแล ป้องกันเด็กๆ ให้ดี

Advertisement

ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image