ผู้ติดเชื้อโควิดวันนี้ 14,887 ราย ไทยอยู่อันดับ 24 ของโลก เสียชีวิต 125คน กลุ่มเสี่ยงยังเป็น 608 คิดเป็น 96%
เมื่อวันที่ 27 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก พบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกสะสมแล้วจำนวน 510,837,733 ราย รักษาหายแล้วรวมจำนวน 464,046,721 ราย และเสียชีวิตรวม 6,249,012 ราย โดยประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อินเดีย บราซิล ฝรั่งเศส และเยอรมนี ส่วนประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 24 ของโลก โดยสถานการณ์ในทวีปเอเชีย ไทยอยู่อันดับ 7
สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อภายในประเทศวันนี้ (วันที่ 27 เมษายน) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 14,887 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศจำนวน 71 ราย แบ่งเป็น เทสต์แอนด์โก 51 ราย แซนด์บ็อกซ์ 2 ราย สถานที่กักกัน (Quarantine) 18 ราย โดยไม่มีผู้ติดเชื้อในกลุ่มลักลอบ ส่วนจากเรือนจำ 45 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสม ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 แล้วจำนวน 1,986,136 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 125 คน รวมเสียชีวิตสะสมตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 จำนวน 125 ราย คิดเป็น 0.32% ทั้งนี้ มีผู้ติดเชื้อที่หายป่วยวันนี้จำนวน 18,919 ราย รวมหายป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 แล้วจำนวน 1,849,966 ราย และกำลังเข้ารับการรักษาอยู่ 162,967 ราย อย่างไรก็ตาม มีผู้ป่วยติดเชื้อที่มีอาการหนักจำนวน 1,822 ราย และที่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจอีกจำนวน 850 ราย
ขณะที่จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 10 จังหวัดที่มีผู้ป่วยปอดอักเสบครองเตียงเยอะที่สุด ณ วันที่ 26 เมษายน ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 156 ราย มีอัตราการครองเตียง 23.8%, นครราชสีมา 89 ราย มีอัตราการครองเตียง 23.0%, กาญจนบุรี 78 ราย มีอัตราการครองเตียง 48.6%, ขอนแก่น 65 ราย มีอัตราการครองเตียง 28.5%, สุพรรณบุรี 59 ราย มีอัตราการครองเตียง 28.3%, สมุทรปราการ 55 ราย มีอัตราการครองเตียง 29.2%, อุบลราชธานี 54 ราย มีอัตราการครองเตียง 31.1%, อุดรธานี 45 ราย มีอัตราการครองเตียง 37.6%, นนทบุรี 45 ราย มีอัตราการครองเตียง 34.7% และชลบุรี 44 ราย มีอัตราการครองเตียง 24.3% โดยทุกพื้นที่ยังมีอัตราการครองเตียงระดับ 2-3 เฉลี่ย 24.1%
สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 125 คนในวันนี้ พบว่าเป็นประชากรกลุ่ม 608 หรือประชากรที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง 96% โดยแบ่งเป็นกลุ่มที่มีอายุมากกว่า 60 ปี จำนวน 102 ราย คิดเป็น 82% และประชากรผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 60 ปี แต่มีโรคเรื้อรังอีกจำนวน 18 ราย คิดเป็น 14% และผู้ที่ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 5 ราย คิดเป็น 4% ทั้งนี้ ปัจจัยเสี่ยงสำคัญ คือ มะเร็ง 7 คน โรคไต 40 คน อ้วน 2 คน หลอดเลือดสมอง 16 คน หัวใจ 18 คน และผู้ป่วยติดเตียง 13 คน
ในส่วนของสถานการณ์การติดเชื้อภายในประเทศ แบ่งตามจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุด 10 จังหวัด ได้แก่ 1.กรุงเทพมหานคร พบผู้ติดเชื้อ 3,292 ราย 2.ขอนแก่น พบผู้ติดเชื้อ 687 ราย 3.ศรีสะเกษ 610 ราย 4.บุรีรัมย์ พบผู้ติดเชื้อ 537 ราย 5.ชลบุรี พบผู้ติดเชื้อ 533 ราย 6.สมุทรปราการ พบผู้ติดเชื้อ 452 ราย 7.มหาสารคาม ติดเชื้อ 374 ราย 8.อุบลราชธานี พบผู้ติดเชื้อ 336 ราย 9.หนองคาย พบผู้ติดเชื้อ 326 ราย และ 10.ฉะเชิงเทรา ผู้ติดเชื้อ 312 ราย
สำหรับผลการให้บริการวัคซีน ข้อมูลเมื่อวันที่ 26 เมษายน เวลา 18.00 น. ประเทศไทยฉีดวัคซีนให้ประชาชนเพิ่มขึ้น 132,459 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 21,514 ราย สะสมรวม 56,184,323 ราย คิดเป็น 80.8% ของจำนวนประชากรทั้งหมด เข็มที่ 2 จำนวน 46,860 ราย สะสมรวม 51,074,520 ราย คิดเป็น 73.4% ของจำนวนประชากรทั้งหมด และเข็มที่ 3 จำนวน 64,085 ราย สะสมรวม 25,566,823 ราย คิดเป็น 36.8% ของจำนวนประชากรทั้งหมด รวมทั้งสิ้นสะสมตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 จำนวน 132,825,666 โดส
โดยการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ในกลุ่มเป้าหมายหลักเดือนมีนาคม 2565 ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ขึ้นไป จำนวนเป้าหมาย 12,704,543 คน ได้รับเข็มที่ 1 แล้ว 10,687,658 โดส คิดเป็น 84.1% ผู้ที่ได้รับเข็มที่ 2 แล้ว 10,136,640 โดส คิดเป็น 79.8% และผู้ที่ได้รับเข็มที่ 3 แล้ว 5,154,805 โดส คิดเป็น 40.6% ของกลุ่มเป้าหมาย ส่วนกลุ่มผู้มีอายุ 5-11 ปี จำนวนกลุ่มเป้าหมาย 5,150,082 คน ได้รับเข็มที่ 1 แล้ว 2,660,621 โดส คิดเป็น 51.7% ของกลุ่มเป้าหมาย และเข็มที่ 2 แล้ว 468,697 โดส คิดเป็น 9.1%
