เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. รับมอบหน้ากากผ้าจากบริษัท ยัสปาล แอนด์ ซันส์ จำกัด จำนวน 100,000 ห่อ รวมมูลค่า 3,000,000 บาท เพื่อให้ สธ.นำไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนใช้ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พร้อมให้สัมภาษณ์ภายหลังการรับมอบ
นายอนุทินกล่าวว่า สธ.จะนำหน้ากากผ้านี้ไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเพื่อใช้ป้องกันโรค และขอบคุณบริษัท ยัสปาล แอนด์ ซันส์ จำกัด ประเทศไทย โชคดีที่มีผู้ประกอบการจากทุกเชื้อชาติ ที่มีความใยประชาชนคนไทยและให้ความช่วยเหลือในทุกด้านเท่าที่จะสามารถให้ความช่วยเหลือได้
“สิ่งเหล่านี้จะเป็นพลังให้การต่อสู้กับโรคโควิด-19 ประเทศไทยจะต้องชนะ” นายอนุทินกล่าว
นอกจากนี้ นายอนุทินกล่าวว่า สธ.ได้ประสานกับโรงพยาบาล (รพ.) และคณะแพทยศาสตร์ทุกแห่งเพื่อจัดสรรทรัพยากรทางการแพทย์ อาทิ ยา อุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงมีการประชุมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (Emergency Operation Center: EOC) ทุกวันเพื่อวางแผนการทำงาน ซึ่งการประกาศพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ฉุกเฉิน ทาง สธ.ได้ให้ นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัด สธ.เป็นผู้สั่งการตามมาตรการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีข้อสั่งการต่างๆ และจะมีผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ สธ.ทุกฝ่ายร่วมใจกันปฏิบัติตามมาตรการ เพื่อให้ประชาชนทุกคนปลอดภัยจากโรคโควิด-19
นายอนุทินกล่าวว่า ได้รับรายงานจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ได้ดำเนินการติดตามผู้ที่อยู่ในภูมิลำเนาโดยมีคำสั่งให้กักกันตนเองภายในบ้านเป็นระยะเวลา 14 วัน ตนเองได้ทดลองระบบติดตามของ อสม. โดยการโทรศัพท์สายตรงถึงผู้ที่ต้องกักกันตนเอง ซึ่งได้รับผลตอบรับตามความคาดหมายว่าสามารถติดตามได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จาก รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบล อสม. ได้เข้าไปให้กำลังถามไถ่ผู้ที่อยู่ในระหว่างการกักกันตนเองทุกวัน
“เราต้องการให้ทุกคนตระหนักถึงอันตรายโควิด-19 มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม เป็นเรื่องที่ประชาชนเข้าใจแล้ว ซึ่งหาทำตามได้ การติดเชื้อของคนในประเทศจะลดลงอย่างมาก ซึ่งการปฏิบัติตนของประเทศไทยเป็นไปตามที่องค์การอนามัยโลกแนะนำได้เป็นอย่างดี” นายอนุทินกล่าว
นายอนุทินกล่าวว่า ขณะนี้เป็นโรคระบาด สธ.มีความพร้อมในการรักษาทั้ง ยา อุปกรณ์ แพทย์รักษา แล้วจึงได้เปลี่ยนเป็นการใช้ห้องปฏิบัติการ (แล็บ) เพียง 1 แห่ง ในการตรวจหาเชื้อผู้ป่วยยืนยัน เพื่อให้ค้นหาผู้ป่วยในวงกว้างได้มากขึ้น เข้าสู่การรักษาได้รวดเร็วขึ้น ทั้งนี้ การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับผู้ป่วยอาการน้อยหรือไม่มีเชื้อไวรัสในร่างกายแล้ว เพื่อเก็บเตียงใน รพ.ไว้รองรับผู้ป่วยรายอื่นๆ เพิ่มเติม
“มีผู้ประกอบการโรงแรม ห้องพัก ที่ให้ความช่วยเหลือ บางท่านให้ฟรีด้วยซ้ำ บางท่านขอแค่ค่าน้ำค่าไฟพอ เราก็ไม่ได้ต้องการไปทำความเดือดร้อนให้ท่าน เรามีงบประมาณที่จะใช้ดูแลอยู่แล้ว หากเราสามารถนำผู้ป่วยที่มีอาการไม่มากหรือต้องเฝ้าอาการไปอยู่ในห้องพักต่างๆ มันก็จะทำให้เตียงในโรงพยาบาลเพียงพอ” นายอนุทินกล่าว
