สปสช.ปลดล็อก “งบชดเชยค่าเสื่อม” รับมือ “โควิด-19”

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า การจัดสรรงบประมาณภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือกองทุนบัตรทอง เพื่อสนับสนุนโรงพยาบาลในการดูแลประชาชนในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 นอกจากงบประมาณสนับสนุนการบริการ จำนวน 4,280 ล้านบาท ที่ครอบคลุมทั้งการตรวจวินิจฉัย การรักษาพยาบาล ค่ายาและเวชภัณฑ์ รวมถึงอุปกรณ์การป้องกันโรคสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ (ชุด PPE) โดยเป็นเงินจากรายการรายได้สูง (ต่ำ) กว่าค่าใช้จ่ายสะสม กองทุนบัตรทอง จำนวน 1,020 ล้านบาท และงบกลางเพิ่มเติมจากรัฐบาล จำนวน 3,260 ล้านบาทแล้ว ในการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา ยังได้เห็นชอบเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อให้หน่วยบริการนำงบประมาณค่าใช้จ่ายเพื่อชดเชยค่าเสื่อมของสิ่งก่อสร้างและครุภัณฑ์สำหรับซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์มาใช้ในการปรับปรุงพื้นที่ภายในหน่วยบริการเพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ได้ โดยกำหนดเป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จำเป็นตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ที่ออกตามคำสั่ง คสช.ที่ 37/2559 ข้อ 23(3)

“ทั้งนี้ สปสช.อยู่ระหว่างการออกประกาศหลักเกณฑ์การใช้งบดังกล่าวตามมติดังกล่าว หลังจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการ สธ. ลงนามเรียบร้อยแล้ว โรงพยาบาลสามารถนำงบดังกล่าวเพื่อใช้ปรับปรุงพื้นที่และจัดซื้อครุภัณฑ์เพื่อรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19″ นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวและว่า ส่วนความคืบหน้างบกลางที่ สปสช.ขอเพิ่มเติมจากรัฐบาลนั้น ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบการขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณเพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามที่หน่วยงานต่างๆ ได้นำเสนอ รวมถึงในส่วนของ สปสช. 3,260 ล้านบาท โดยครอบคลุมการดูแลผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ทั้งค่าการตรวจคัดกรองและวินิจฉัย การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ค่ายารักษา ค่าห้องควบคุม ค่าอุปกรณ์และชุดป้องกันของบุคลากรทางการแพทย์ (ชุด PPE) โดย สปสช.จะดำเนินการจัดสรรเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของบอร์ด สปสช.และกระจายให้กับโรงพยาบาลโดยเร็ว เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image