เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงษ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงชุดทดสอบตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ว่า ตั้งแต่มีผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เมื่อปลายปี 2562 และประเทศไทย พบผู้ป่วยรายแรกเมื่อต้นเดือนมกราคม 2563 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มีการผลิตน้ำยาทดสอบและชุดทดสอบใช้เองในประเทศ โดยได้ร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศิริราช รามาธิบดี และเครือข่ายห้องปฏิบัติการในการพัฒนาห้องปฏิบัติการ (แล็บ) ตรวจวินิจฉัย
นพ.โอภาส กล่าวว่า ขณะนี้มีมากกว่า 50 แล็บ และปลายเดือนเมษานี้จะมีมากกว่า 100 แล็บ กระจายอยู่ทั่วประเทศ ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ตรวจไปมากกว่า 40,000 ตัวอย่าง และอยากให้ประชาชนมั่นใจว่าน้ำยามีเพียงพอ โดยข้อมูลเมื่อวันที่ 25 มีนาคม ตรวจ 2,500 ตัวอย่าง จึงขอยืนยันว่าไม่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำยา และในส่วนของน้ำยาที่ใช้ในการทดสอบส่วนมากเป็นน้ำยาที่ผลิตขึ้นเองไม่ได้สั่งซื้อจากต่างประเทศ แต่โรงพยาบาล (รพ.) เอกชน และหน่วยงานอื่นๆ มีความจำเป็นต้องใช้จึงต้องสั่งนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ) เครื่องมือแพทย์ ของคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขณะนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้อนุมัติชุดตรวจหา RT-pcr จำนวน 12 บริษัท ส่วนชุดตรวจหาภูมิคุ้มกัน 3 บริษัท
“ขอให้มั่นใจว่าน้ำยาที่เราผลิตใช้เองในประเทศไทยโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะไม่มีการขาดแคลนเนื่องจากมีแผนผลิตให้ได้ถึง 200,000 ตัวอย่างต่อเดือน” นพ.โอภาส กล่าว
