ศรีสุวรรณโวยธุรกิจ “ฟู้ดดิลิเวอรี” ยุค “โควิด-19” โขกสับราคา เอาเปรียบ ปชช. ไร้กฎหมายควบคุม
ฟู้ดดิลิเวอรี // เมื่อวันที่ 2 เมษายน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า สมาคมได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่เชื่อรัฐบาลโดยยอมกักตัวอยู่ที่บ้านพัก รวมทั้งผู้ประกอบการร้านอาหารทั่วไป ได้รับความเดือดร้อนจากการโขกสับราคาอย่างหน้าเลือดจากธุรกิจรับส่งอาหารไปส่งให้ถึงบ้าน หรือดิลิเวอรี เนื่องจากมีการกำหนดราคาค่าบริการอย่างไร้การควบคุม สืบเนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อ โควิด-19 และนโยบายของรัฐบาลในการรณรงค์ให้ประชาชนเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน และสั่งให้ร้านอาหารห้ามนั่งกิน ทำให้เป็นช่องทางให้ธุรกิจรับส่งอาหารเป็นที่ต้องการของประชาชน และเติบโตอย่างก้าวกระโดด มีการโฆษณาทั้งทางตรงและทางอ้อมในการหาร้านค้า ร้านอาหารเข้าร่วมบริการ
“ปัญหาคือ เจ้าของธุรกิจเหล่านี้จะหักค่าส่งยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มหรือ VAT 35% หากรวม VAT ก็ 42% ยกตัวอย่าง ร้านค้าขายข้าวแกงกล่องละ 40 บาท ก็จะเหลือ 25.20 บาท หากต้องให้เหลือ 40 บาทเพื่อให้พอมีกำไร ต้องตั้งราคาที่กล่องละ 63.50 บาท ด้วยราคานี้ทำให้ขายยาก ภาระก็จะตกอยู่ที่ผู้บริโภค และยังไม่รวมเงินที่ร้านค้าที่เข้าร่วมบริการกว่าจะได้รับอีก 45 วัน รวมทั้งการที่ต้องลงนามในสัญญาร่วมธุรกิจอย่างน้อย 12 เดือน แม้ปัจจุบันมีบางธุรกิจดิลิเวอรีพยายามล่อใจลูกค้าโดยลดค่าคอมมิสชั่นลงมาเหลือ 30% ซึ่งชี้ให้เห็นว่ามีการกำหนดราคากันเองอย่างไร้การควบคุม มีผลกระทบโดยตรงต่อผู้บริโภคที่พยายามจะปฏิบัติตนเป็นคนดีของสังคมในการอยู่กับบ้านไม่ออกนอกที่อยู่อาศัยในยุคโควิด-19 แต่คนเราต้องกินต้องใช้ จึงหันไปพึ่งบริการธุรกิจรับส่งอาหารดังกล่าวเป็นจำนวนมาก แต่กลับหนีเสือปะจระเข้โดยที่หน่วยงานภาครัฐไม่คิดที่จะเข้ามาควบคุมทั้งที่เป็นธุรกิจที่ยังไม่มีกฎหมายรองรับ” นายศรีสุวรรณกล่าว
เลขาธิการสมาคมกล่าวว่า การประกอบธุรกิจผิดกฎหมายอย่างชัดเจน และเป็นหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบก สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค รวมทั้งกรมการค้าภายใน จะต้องรีบเร่งในการออกกฎระเบียบมาควบคุมดูแลธุรกิจเหล่านี้ไม่ให้ฉกฉวยโอกาสช่วงที่ประชาชนเดือดร้อน หาก 3 หน่วยงานไม่ดำเนินการ สมาคมจะนำความขึ้นฟ้องต่อศาล ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ต่อไป
