ห่วงโควิด-19 ลาม “ประปาหมู่บ้าน” กรมอนามัยแนะท้องถิ่นเข้ม “คุณภาพน้ำ”

กรมอนามัยแนะท้องถิ่นคุมเข้มน้ำประปาช่วง โควิด-19 ตามคำแนะนำองค์การอนามัยโลก

กรมอนามัย- เมื่อวันที่ 3 เมษายน นพ.ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ยังไม่พบหลักฐานยืนยันว่าพบเชื้อไวรัสโคโรนาในน้ำผิวดิน น้ำบาดาล น้ำประปาหรือน้ำบริโภค เนื่องจากไวรัสชนิดนี้มีเยื่อหุ้มที่มีความทนทานต่อสภาวะแวดล้อมได้ต่ำ และถูกทำลายได้ง่ายจากสารเคมีที่ใช้ในการฆ่าเชื้อ เช่น คลอรีน เป็นต้น ดังนั้นความเสี่ยงที่จะพบเชื้อไวรัสโคโรนาในน้ำประปาจึงค่อนข้างต่ำ แต่องค์การอนามัยโลกก็ได้ให้คำแนะนำในการจัดการน้ำสะอาดเพื่อป้องกันการปนเปื้อน โดยเฉพาะระบบการผลิตน้ำประปาให้มีการควบคุม กำกับ ดูแลและเฝ้าระวังตามปกติอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะระบบกำจัดเชื้อโรคในกระบวนการผลิตน้ำประปาต้องเพิ่มความเข้มงวดให้มากกว่าเดิม

“กรมอนามัยจึงได้จัดทำคำแนะนำในการดูแลคุณภาพน้ำประปา เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ใช้เป็นแนวทางในการควบคุม กำกับ ดูแลและเฝ้าระวังคุณภาพน้ำประปา ในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด–19 ดังนี้

1.แหล่งน้ำดิบ ดูแลรักษาความสะอาดของแหล่งน้ำดิบตามปกติ เพิ่มความเข้มงวดไม่ให้มีขยะโดยเฉพาะหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้ว บริเวณใกล้เคียงกับแหล่งน้ำดิบ หากพบต้องดำเนินการกำจัดอย่างถูกหลักสุขาภิบาลทันที

2.ระบบผลิตน้ำประปา ควบคุมกระบวนการผลิตตามแนวทางปกติ เพื่อให้ได้คุณภาพน้ำประปาตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด และเข้มงวดในการควบคุมค่าความขุ่นให้น้อยกว่า 1 NTU และค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ให้ได้ตามมาตรฐานแต่ไม่เกิน 8.0 เพื่อประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรค ที่สำคัญเพิ่มปริมาณความเข้มข้นของคลอรีนในกระบวนการฆ่าเชื้อโรคให้มีคลอรีนอิสระคงเหลือไม่ต่ำกว่า 1 มิลลิกรัมต่อลิตร (ppm.) ที่ต้นทางของน้ำประปา

Advertisement

3.ระบบการจ่ายน้ำ ดูแลระบบท่อจ่ายน้ำไม่ให้แตก รั่ว หากพบให้ดำเนินการซ่อมแซมทันที เข้มงวดการระบายน้ำทิ้งหลังจากการซ่อมแซม เพื่อรักษาคุณภาพน้ำในระบบจ่ายให้มีคุณภาพคงที่อยู่เสมอ และเพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังปริมาณคลอรีนอิสระคงเหลือในระบบจ่ายน้ำจนถึงบ้านผู้ใช้น้ำ ให้มีไม่ต่ำกว่า 0.5 มิลลิกรัมต่อลิตร (ppm.)

4.เจ้าหน้าที่ดูแลกระบวนการผลิตน้ำประปา ต้องปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของ สธ. เช่น กินอาหารร้อน ใช้ช้อนส่วนตัว หมั่นล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างในการติดต่อประสานงานกันอย่างน้อย 1-2 เมตร คัดกรองและเฝ้าระวังอาการป่วยของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตน้ำประปา โดยการวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเวลาปฏิบัติงานและสังเกตอาการ หากมีอุณหภูมิร่างกาย 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป หรือพบอาการผิดปกติ เช่น มีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจลำบาก ครั่นเนื้อตัว ให้หยุดปฏิบัติงาน แจ้งหน่วยงานและไปพบแพทย์

และ 5.อาคารสถานที่ผลิตน้ำประปา ต้องดูแลรักษาความสะอาดของอาคารสถานที่ผลิตน้ำประปาให้สะอาดอยู่เสมอ ตามมาตรการ 5 ส. และเข้มงวดการทำความสะอาดตามจุดเสี่ยงที่ใช้ร่วมกัน ได้แก่ ลูกบิดประตู ราวบันได ห้องน้ำ โต๊ะ เก้าอี้ ในอาคารสถานที่ดังกล่าว ทั้งนี้ ในการตรวจหาปริมาณคลอรีนอิสระในน้ำประปานั้น อปท.สามารถใช้ชุดทดสอบปริมาณคลอรีนอิสระในน้ำ (อ 31) ของกรมอนามัย ดำเนินการได้ ซึ่งใช้งานง่าย สะดวกและประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย

Advertisement

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image