‘บลจ.ธนชาต’ แนะจับจังหวะลงทุนหุ้นไทย หลังราคาถูกโควิด-19 ฉุดถูกทั้งกระดาน

นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมดัชนีหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปี 2563 ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก ทำให้เกิดการแกว่งตัวและผันผวนสูงมากในช่วงที่ผ่านมา ล่าสุดแม้ดัชนีปรับขึ้นมาอยู่ที่ 1,134.32 จุด จากราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่นักลงทุนหลายท่านยังมีความกังวลในการลงทุนในหุ้นไทย แต่บลจ.ธนชาต มองว่าหุ้นไทยยังคงน่าลงทุนในระยะยาว เพราะราคาหุ้นได้สะท้อนปัจจัยลบจากวิกฤตไปมากแล้ว แม้ในระยะสั้นอาจมีความผันผวนอยู่บ้าง แต่จะสามารถฟื้นตัวได้ในที่สุด รวมถึงถือได้ว่าขณะนี้เป็นจังหวะที่น่าลงทุนมาก เพราะตอนนี้หุ้นไทยอยู่ในช่วงที่ราคาถูกมากแล้ว

นายบุญชัยกล่าวว่า จากมติคณะคณะรัฐมนตรีในวันที่ 10 มีนาคม 2563 ที่มีมติเห็นชอบเรื่องมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจไทย โดยมีมาตรการสร้างความเชื่อมั่นในระบบตลาดทุน โดยการอนุมัติให้บริษัทจัดการกองทุน สามารถออกองทุนรวมเพื่อการออม (เอสเอสเอฟ) แบบพิเศษ ที่ระบุว่าต้องมีนโยบายการลงทุนในหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ และสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 200,000 บาท ซึ่งเป็นวงเงินที่แยกจากวงเงินหักลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนเอสเอสเอฟกรณีปกติด้วย บลจ.ธนชาต จึงได้ออก กองทุนเปิดธนชาต อีสท์สปริง หุ้นทุนปันผล เพื่อการออมพิเศษ หรือ T-ES-EQDSSFX ที่มีกลยุทธ์เน้นลงทุนในหุ้นใหญ่ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ราคาไม่แพง และมีโอกาสได้รับเงินปันผลดี อาทิ หุ้นกลุ่มบริโภคในประเทศ กลุ่มพลังงาน และโรงไฟฟ้า ที่จะเห็นได้ว่าแม้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่ยังคงสามารถปรับตัวให้สอดรับกับภาวะความผันผวนในตลาดได้

“ในระยะถัดไป เมื่อตลาดเริ่มผ่านเข้าสู่ช่วงเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ จะประเมินและเข้าลงทุนในหุ้นไทยเติบโตสูงอย่างกลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยว หรือหุ้นขนาดกลาง โดยผู้จัดการกองทุนมีการปรับพอร์ตการลงทุนแบบทำงานตลอดเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะการลงทุนในทุกสถานการณ์ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในระยะยาว เหมาะกับการนำไปวางแผนเกษียณในอนาคต ประกอบกับยังได้สิทธิลดหย่อนภาษีพิเศษตามกฎหมายเพิ่มอีก 200,000 เพียงแต่ต้องถือหน่วยลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 10 ปี เท่านั้น“ นายบุญชัยกล่าว

นายบุญชัยกล่าวว่า กองทุนเปิดธนชาตดังกล่าว เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นไทยขนาดใหญ่ พื้นฐานดี และหุ้นเติบโตสูง โดยกองทุนนี้ถือเป็นกองทุนเอสเอสเอฟพิเศษ ที่จะเปิดเสนอขายเพียง 3 เดือน ต้องลงทุนวันสุดท้ายภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 เท่านั้น ถึงจะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีพิเศษ ซึ่งกองทุนนี้จะเปิดขายครั้งแรกในวัน 1-8 เมษายน 2563 ลงทุนขั้นต่ำเพียง 1 บาท โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมขอรับหนังสือชี้ชวนได้ในวันและเวลาทำการเสนอขายที่บลจ.ธนชาต โทรศัพท์ 0 2126 8399 กด 0 หรือ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือผู้สนับสนุนการขาย หรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนที่ บลจ.ธนชาต แต่งตั้งได้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image