กรมควบคุมโรคจัดอันดับ 10 จังหวัด ยอดผู้ป่วยสะสม “โควิด-19” สูงสุด กรุงเทพฯ กว่าพันคน
โควิด-19 เมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล “โควิด-19” ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ว่า สถานการณ์ทั่วโลก 204 ประเทศ ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 38 และพบผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อทั่วโลกสะสมรวม 1,200,319 ราย อาการหนัก 42,324 ราย รักษาหายแล้ว 246,127 ราย เสียชีวิต 64,667 ราย ประเทศที่พบผู้ป่วยสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ 1. ประเทศสหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อสูงที่สุดจำนวน 310,233 ราย เสียชีวิต 8441 ราย 2.สเปน 126,168 ราย เสียชีวิต 11,947 ราย 3.อิตาลี 124,632 ราย เสียชีวิต 15,362 ราย 4.เยอรมนี 96,092 เสียชีวิต 1,444 ราย 5.ฝรั่งเศส 89,953 ราย เสียชีวิต 7,560 ราย 6.จีน 81,639 ราย เสียชีวิต 3,326 ราย 7. อิหร่าน 55,743 รายเสียชีวิต 3,452 ราย 8.อังกฤษ 41,903 ราย เสียชีวิต 4,311 ราย 9.ตุรกี 23,934 ราย เสียชีวิต 501 ราย 10.สวิตเซอร์แลนด์ 20,505 ราย เสียชีวิต 666 ราย
“ที่จะต้องรายงานสถานการณ์ในต่างประเทศ เนื่องจากจะต้องเชื่อมโยงสถานการณ์ในประเทศไทยและดูแลพี่น้องประชาชนที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ซึ่งเรามีความห่วงใยอย่างไรก็ตามแต่จะต้องมีกระบวนการในการดูแลประชาชนในประเทศเช่นเดียวกัน ดังนั้นขั้นตอนต่างๆเราให้ความสำคัญโดยละเอียด” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ประเทศพบจำนวนผู้ป่วยยืนยัน ใหม่ 102 ราย พบในกรุงเทพมหานคร 34 ราย จ.ภูเก็ต โดยเป็นผู้ที่ทำอาชีพเสี่ยง 10 ราย และสัมผัสผู้ป่วย 8 ราย รวม 24 ราย จ.สมุทรปราการ 9 ราย จ.ชลบุรี 8 ราย จ.นนทบุรี 7 ราย จ.เชียงใหม่ 3 ราย จ.ฉะเชิงเทรา จ.นราธิวาส จ.พัทลุง และ จ.ลำปาง จังหวัดละ 2 ราย จ.นครราชสีมา จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ปราจีนบุรี จ.ปัตตานี จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ยะลา จ.สกลนคร จ.สระแก้วและ จ.สุรินทร์ จังหวัดละ 1 ราย ในจำนวนนี้ แบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
กลุ่มที่ 1 เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันเดิมและเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 48 ราย ได้แก่
1.เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง 2 ราย
2.เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมทางศาสนา 2 ราย
3.เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่คือ กทม. 14 ราย ภูเก็ต 8 ราย และสมุทรปราการ 6 ราย รวม 44 ราย
กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ มีจำนวน 42 ราย ได้แก่
1.คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 13 ราย
2.ชาวต่างชาติเดินทางจากต่างประเทศ 1 ราย
3.สัมผัสกับผู้เดินทางจากต่างประเทศ 2 ราย
4.ผู้ที่ไปในสถานที่ชุมชน/ชุมนุม เช่น ห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว จำนวน 5 ราย
5.ผู้ที่ทำงานหรืออาศัยอยู่ในพื้นที่แออัดที่จะต้องใกล้ชิดกับคนจำนวนมาก หรือเกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ ส่วนใหญ่คือ ภูเก็ต 10 รายซึ่งเป็นพนักงานนวด 5 ราย รวม 19 ราย
6.บุคลากรทางการแพทย์จำนวน 2 ราย รวมมีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อสะสม 37 ราย
กลุ่มที่ 3 ผู้ป่วยกลุ่มที่ยืนยันทางห้องปฏิบัติการแล้วแต่ต้องรอการสอบสวนโรคและประวัติเสี่ยงเพิ่มเติมจำนวน 12 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในประเทศไทยมีทั้งหมด 11 จังหวัด ที่ยังไม่พบผู้ป่วยเลย จากเดิมมี 15 และ 13 จังหวัด ตามลำดับ ได้แก่ 1.กำแพงเพชร 2.ชัยนาท 3.ตราด 4.น่าน 5.บึงกาฬ 6.พังงา 7.พิจิตร 8.ระนอง 9.สตูล 10.สิงห์บุรี และ 11.อ่างทอง ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องชื่นชมที่ทุกหน่วยพยายามตรึงกำลังให้มากที่สุดโดยเป็นการทำงานอย่างหนัก
นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 2,169 ราย พบใน 66 จังหวัด กรมควบคุมโรคได้จัดอันดับจังหวัดที่มีอัตราป่วยสะสมสูงสุด 10 ลำดับแรกของประเทศไทย การคำนวณอัตราประชากรในพื้นที่ต่อแสน ได้แก่ 1.กรุงเทพฯ จำนวน 1,011 ราย 2.จ.นนทบุรี จำนวน 137 ราย 3.จ.ภูเก็ต จำนวน 131 ราย 4.จ.สมุทรปราการ จำนวน 108 ราย 5.จ.ชลบุรี จำนวน 68 ราย 6.จ.ยะลา จำนวน 52 ราย 7.จ.ปัตตานี จำนวน 45 ราย 8.จ.สงขลา จำนวน 37 ราย 9.จ.เชียงใหม่ จำนวน 36 ราย และ 10.จ.ปทุมธานี จำนวน 28 ราย อยู่ในระหว่างการสอบสวนโรค 179 ราย
