กรุงเทพฯ วันเดียวติด ‘โควิด-19’ 19 คน ‘อัศวิน’ เผยยอดลดต่อเนื่อง แต่ยังต้องมีระยะห่าง
กทม. – เมื่อวันที่ 10 เมษายน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 21/2563 โดยมี พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯกทม. นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัด กทม. พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร กทม. ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมประชุม ที่ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า)
พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า วันนี้ในพื้นที่กรุงเทพมหานครมียอดผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่ม จำนวน 19 คน ยอดผู้ป่วยสะสมรวมจำนวน 1,262 คน ผู้ป่วยรักษาหายสามารถกลับบ้านได้เพิ่มขึ้น 44 คน รวมยอดผู้ป่วยรักษาหายจำนวน 725 คน ผู้ป่วยอยู่ระหว่างการรักษา 491 คน ผู้ป่วยระหว่างรอรายงานผลการรักษา 31 คน ซึ่งยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในกรุงเทพฯลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือของประชาชนในการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของกรุงเทพมหานครเป็นอย่างดี สำหรับผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจคัดกรองโควิด-19 จำนวน 13 ด่าน เมื่อวันที่ 9 เมษายน เรียกตรวจรถทั้งสิ้น 9,078 คัน ตรวจคัดกรองบุคคลรวม 18,383 คน ไม่พบบุคคลเข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยง ส่วนผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำด่านฯ ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม-วันที่ 9 เมษายน 2563 เรียกตรวจรถทั้งสิ้น 117,148 คัน ตรวจคัดกรองบุคคลรวม 261,174 คน พบบุคคลเข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยงรวม 62 คน
“นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เน้นย้ำกลุ่มเขตให้มีการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการทำบุญและการจัดงานตามประเพณีสงกรานต์ เนื่องจากข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พบว่า โรคนี้สามารถแพร่เชื้อติดต่อกันได้โดยผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการ ซึ่งผู้สูงอายุมีความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 ได้ง่าย และเริ่มมีแนวโน้มการติดเชื้อของบุคคลในครอบครัวเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ในช่วงเทศกาลประเพณีสงกรานต์ จึงขอให้งดเว้นการจัดงานสงกรานต์ในทุกระดับ งดเว้นการเดินทางกลับภูมิลำเนา งดเว้นการรดน้ำขอพรญาติผู้ใหญ่ทุกกรณี งดการเข้าร่วมกิจกรรมที่มีการรวมตัวกันของคนหมู่มาก หรือเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโดยเด็ดขาด” พล.ต.อ.อัศวินกล่าว
อย่างไรก็ดี พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า เพื่อเป็นการสืบสานเทศกาลประเพณีสงกรานต์ขอให้ปฏิบัติ ดังนี้ สรงน้ำพระพุทธรูปที่บ้าน แสดงความกตัญญูและขอพรต่อพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ที่อาศัยอยู่บ้านเดียวกัน ด้วยการกราบไหว้และขอพร โดยเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลประมาณ 1-2 เมตร และปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ สมาชิกในครอบครัวทุกคนต้องสวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย สำหรับการแสดงความกตัญญูและขอพรต่อพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ที่อยู่ไกลกัน ให้แสดงออกผ่านโทรศัพท์หรือระบบสื่อออนไลน์จะสะดวกปลอดภัยกว่าด้วย
