รวบ 12 โจ๋ตั้งวงมั่วสุมดื่มสุรา สาววัย 27 สารภาพอยู่ในช่วงกักตัว-เหงาอดเล่นน้ำสงกรานต์ ชวนกันนั่งดื่ม

รวบ 12 โจ๋ตั้งวงมั่วสุมดื่มสุรา สาววัย 27 สารภาพอยู่ในช่วงกักตัว-เหงาอดเล่นน้ำสงกรานต์ ชวนกันนั่งดื่ม

บุรีรัมย์ – เมื่อวันที่ 14 เมษายน ร.ต.อ.นิติพัฒน์ กิตติจรัลชัย รองสารวัตร (สอบสวน) นำตัวผู้ถูกกล่าวหาผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จำนวน 12 คน เป็นชาย 10 หญิง 2 คน ในจำนวนทั้งหมด มีชายอายุ 24 ปี เป็นลูกชายเจ้าของรีสอร์ตรวมอยู่ด้วย มาสอบสวน หลังจากฝ่ายปกครอง อ.กระสัง พร้อมตำรวจ สภ.กระสัง เข้าจับกุมขณะกำลังมั่วสุมกันดื่มสุราและเสพยาที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน ต.สองชั้น อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เมื่อเวลา 21.00 น. วานนี้ (13 เม.ย.)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากผู้หวังดีว่ามีกลุ่มคนกว่า 10 คน รวมตัวกันดื่มสุราและเสพยาภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยหลังการจับกุมตำรวจได้ทำการตรวจปัสสาวะกลุ่มคนทั้งหมด พบมีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่า 100 จำนวน 3 คน ตรวจพบสารเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) 1 ราย คือนายธีรพงษ์ ผลเจริญ อายุ 24 ปี เป็นลูกชายเจ้าของรีสอร์ต ซึ่งจากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมด ให้การรับสารภาพว่าได้มั่วสุมกันดื่มสุราจริง

น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี หนึ่งในผู้ต้องหา เล่าว่า ตนกลับมาจากกรุงเทพฯ โดยลงทะเบียนผู้เดินทางมาจากต่างจังหวัดไว้ที่ อสม.ในหมู่บ้านของตัวเองแล้ว แต่ไม่อยากให้ครอบครัวต้องเดือดร้อนที่จะต้องโดนกักตัว จึงขอมากักตัวเองด้วยการเปิดห้องพักรีสอร์ตแห่งนี้เพียงคนเดียว ซึ่งได้พักมาเป็นวันที่ 4 แล้ว วันเกิดเหตุซึ่งเป็นวันสงกรานต์ ตนเองรู้สึกเหงา เพราะไม่ได้เล่นสงกรานต์เหมือนทุกปี จึงออกมานั่งเล่นระเบียงหน้าห้อง บังเอิญเห็นคนรู้จักกันข้างห้อง จึงนั่งคุยกัน จากนั้นได้มีผู้ที่พักห้องอื่น ซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เห็นตนนั่งคุยกัน เลยทักทายในตอนกลางวัน พอช่วงเย็นก็เหงาอีก แต่ละห้องจึงโผล่หน้าออกมามองกัน โดยมีลูกชายเจ้าของรีสอร์ตมาทักทายด้วย ก่อนจะนัดแนะกันมาพูดคุยกัน บางคนมีเบียร์หรือเหล้าที่ติดมา เอามารวมกันแล้วนั่งดื่มกันเพื่อคลายเหงา ไม่ได้หวังจะสร้างความก่อกวนคนอื่นแต่อย่างใด

เมื่อตำรวจสอบถามว่า การรวมตัวกันดังกล่าวของคนที่กลับมาจากกลุ่มเสี่ยง ไม่คิดจะกลัวการติดโรคโควิด-19 หรือไม่ ได้รับคำตอบว่า “ถ้ามีคนติด ก็คงติดด้วยกันทั้งหมด”

Advertisement

เบื้องต้น ตำรวจตั้งข้อกล่าวหา ผิดพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.) 2558 (ฉบับที่ 1) ข้อ 5 และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 4/2563 คือห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม หรือการมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด ที่ห้ามข้อหาร่วมกันชุมนุมมั่วสุมกันในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค หรือการกระทำอันเป็นการฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน หรือการกลั่นแกล้งเพื่อแพร่เชื้อโรค ณ ที่ใดใดทั่วราชอาณาจักรฯ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image