ศบค.ชี้โควิด-19 “ไทย” แนวโน้มดีขึ้น ไม่พบผู้ป่วยจากสนามมวย-ผับ

ศบค.ชี้ “โควิด-19” ทั่วโลก “ตุรกี” แซงจีน “รัสเซีย” ขึ้น 10 ปท.ติดเชื้อสูงสุด “ไทย” แนวโน้มดีขึ้น ไม่พบผู้ป่วยจากสนามมวย-ผับ

โควิด-19 เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล “โควิด-19” ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ว่า สถานการณ์ทั่วโลก 208 ประเทศ ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 54 และพบผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อทั่วโลกสะสมรวม 2,407,339 ราย อาการหนัก 54,218 ราย รักษาหายแล้ว 616,679 ราย เสียชีวิต 165,059 ราย ประเทศที่พบผู้ป่วยสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ 1.สหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อสูงที่สุดจำนวน 764,265 ราย เสียชีวิต 40,565 ราย 2.สเปน 198,674 ราย เสียชีวิต 20,453 ราย 3.อิตาลี 178,972 ราย เสียชีวิต 23,660 ราย 4.ฝรั่งเศส 152,894 ราย เสียชีวิต 19,718 ราย 5.เยอรมนี 145,742 ราย เสียชีวิต 4,642 ราย 6.อังกฤษ 120,067 ราย เสียชีวิต 16,060 ราย 7.ตุรกี 86,306 ราย เสียชีวิต 2,017 ราย 8.จีน 82,747 ราย เสียชีวิต 4,632 ราย 9.อิหร่าน 82,211 ราย เสียชีวิต 5,118 รายและ 10.รัสเซีย 42,853 ราย เสียชีวิต 361 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนในทวีปฝั่งเอเชีย ประเทศใกล้กับประเทศไทยคือ ประเทศญี่ปุ่น พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 501 ราย สะสมอยู่ที่ 10,797 ราย ประเทศสิงคโปร์พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 596 รายสะสมอยู่ที่ 6,588 ราย ซึ่งมีรายงานว่าเกิดการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนจากแรงงานต่างชาติ ที่อยู่แออัดกันในพื้นที่พัก ประเทศอินโดนิเซีย พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 327 รายสะสมอยู่ที่ 6,575 ราย โดยจะต้องนำมาเรียนรู้และปรับใช้ในมาตรการของประเทศไทย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทย จำนวนผู้ป่วยยืนยันตามปัจจัยเสี่ยงจำแนกรายสัปดาห์ ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 13-17 ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม – วันที่ 25 เมษายน พบว่า 1.สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ เรียงตาม 5 สัปดาห์ คือ 185 329 176 121 และ 32 รายตามลำดับ พบผู้ป่วยสะสมรวมทั้งหมด 843 ราย โดยเป็นกลุ่มที่จำนวนที่มากที่สุด ส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อในครอบครัว 2.คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ พบผู้ป่วยสะสม 221 ราย 3.ผู้ทำอาชีพเสี่ยง เช่น ทำงานในสถานที่แออัด พบผู้ป่วยสะสม 186 ราย ส่วนในผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงและสนามมวย

“ขณะนี้ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่แล้ว เนื่องจากมีการประกาศปิดสถานที่เหล่านั้นไปแล้ว และกลุ่มของบุคลากรทางการแพทย์ที่มีการติดเชื้อ โดยมีสาเหตุทั้งจากการทำงาน ที่ผู้ป่วยบอกข้อมูลไม่ครบถ้วน หรือเป็นการติดเชื้อส่วนตัวในชีวิตประจำวัน โดยเรื่องนี้จะต้องมีการเพิ่มมาตรการป้องกันส่วนบุคคลตามมา อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของสถานการณ์ภายในประเทศไทยดีขึ้น ทั้งนี้ เพราะประชาชนทุกคนร่วมมือร่วมใจกันในการป้องกันการแพร่ระบาด” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image