หุ้นไทยย่อตัว ปิดลบ 13.75 จุด หลังเผชิญแรงขายทำกำไร-ไร้ปัจจัยหนุนใหม่

วันที่ 24 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนบวกสลับลบ โดยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,272.53 จุด ปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 1,269.54 จุด ก่อนปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 1,258.78 จุด ปรับลดลง13.75 จุด หรือ 1.08% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,280.02 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,255.73 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 68,704.56 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น นักลงทุนสถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 683.96 ล้านบาท นักลงทุนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 275.70 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 3,156.04 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 4,115.70 ล้านบาท ในระหว่างวันดัชนีลบมากสุด 16.80 จุด และบวกมากสุดถึง 7.49 จุด

โดยนายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ปิดในแดนลบ สาเหตุมาจากแรงขายทำกำไรในกลุ่มหุ้นที่ราคาปรับขึ้นค่อนข้างดีในช่วงก่อนหน้านี้อาทิ หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า และหุ้นสนามบิน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ถูกขายออกมาและมีสัดส่วนกดดันดัชนีหุ้นไทยมากที่สุด รวมถึงการที่ตลาดหุ้นขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะที่สุานการณ์โควิด-19 ยังไม่สามารถคลายตัวได้ และกระแสข่าวเกี่ยวกับยาต้านไวรัสที่ค้นพบยังมีข้อจำกัดในการรักษาอยู่ ตลาดหุ้นต่างประเทศจึงเผชิญกับแรงขายออกมาเช่นกัน สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นในสัปดาห์ถัดไป ประเมินว่าตลาดหุ้นมีโอกาสจะพักตัวต่อเนื่องหลังเริ่มเข้าสู่ช่วงการประกาศงบไตรมาส 1/2563 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทย ซึ่งมีแนวโน้มออกมาไม่สดใสมากนัก จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 1,200 – 1,270 จุด

ปัจจัยที่ต้องติเติดตาม เป็นการรายงานตัวเลขจีดีพีไตรมาสแรกของสหรัฐและยุโรป ซึ่งคาดว่าจะออกมาไม่ค่อยดีนักรวมถึงติดตามการประชุมธนาคารกลางสำคัญทั่วโลก ได้แก่ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่วนกลยุทธ์ที่แนะนำในการลงทุนคือ เน้นหุ้นที่ราคายังปรับขึ้นช้ากว่ากลุ่มและหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการไตรมาสแรกจะออกมาดี” นายชาญชัยกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image