ณ เบื้องหน้าสภาพการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 มีตัวแทนความคิด 2 ความคิดจาก 2 ชุมชนเสนอตัวเข้าสู่การพิจารณาของสังคมไทย
1 ความคิดจากชุมชนความมั่นคงอันมี “สภาความมั่นคงแห่ง ชาติ” เป็นตัวแทน
1 ความคิดจากชุมชน “สาธารณสุข” ที่อยู่ใน “ภาคสนาม”
2 ความคิด 2 ชุมชนนี้มีผลต่อการตัดสินใจอย่างมีนัยสำคัญไม่เพียงแต่ต่อการตัดสินใจว่าจะดำเนิน”มาตรการ”อย่างไรในสภาพการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19
หากยังส่งผลอย่างแน่นอนต่ออนาคตในทางสุขภาพ ในทาง เศรษฐกิจและในทางการเมือง วัฒนธรรมของประเทศ
การตัดสินใจของรัฐบาลจึงจะเป็นการตัดสินใจสำคัญ
แนวคิดพื้นฐานของชุมชน”ความมั่นคง”ถือเอาความมั่นคงของชาติ ความมั่นคงของสุขภาวะเป็นสำคัญ อาศัยความจัดเจนจากการบริหารจัดการด้าน”ความมั่นคง”เป็นหลักนิยม
ไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นแพทย์ ไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นทหาร ตำรวจ เป็นข้าราชการหรือเป็นนักการเมือง
ความจัดเจนนี้คือความจัดเจนบนแนวทาง”รัฐประหาร”
ความจัดเจนนี้คือความจัดเจนจากหลังรัฐประหารกระทั่งความจัดเจนในห้วง 1 เดือนของการบริหารราชการในสถานการณ์ ฉุกเฉิน
แนวคิดพื้นฐานของชุมชน”สาธารณสุข”มาจากความจัดเจนที่สามารถบริหารจัดการควบคุมไวรัสได้ในการปฏิบัติที่เป็นจริงในแต่ละพื้นที่
ตระหนักในผลสะเทือนจากมาตรการ”เข้ม”ทางด้าน”ความมั่นคง”และเห็นสมควรต้อง “คลายล็อก”อย่างมีขั้นตอน
ทางเลือกจากข้อเสนอของชุมชน”ความมั่นคง”คือคงมาตรการเข้ม ต่อไปอีก 1 เดือน เป็นมาตรการเข้มบนพื้นฐานการปิดเมือง ปิดงาน ปิดอาชีพ หยุดธุรกรรมต่างๆ
ทางเลือกจากข้อเสนอของชุมชน”สาธารณสุข”คือยังคงควบคุมด้านสุขภาพต่อไปเหมือนเดิม
เพียงแต่ผ่อนคลายมาตรการ”เข้ม”อย่างมีการวางแผน
ค่อยๆ ให้การดำเนินธุรกรรมบางธุรกรรมเพื่อให้ห่วงโซ่ด้าน เศรษฐกิจได้ขับเคลื่อน เปิดเมือง เปิดอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ให้ผ่อนคลายภายใต้การควบคุม
คำถามก็คือรัฐบาล และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเลือก เส้นทางสายใด
การเลือกครั้งนี้จะชี้ขาดอนาคตประเทศ อนาคตรัฐบาล