ศบค.ย้ำยังต้อง “ค้นหาเชิงรุก” ในพื้นที่เสี่ยง เผยผู้ป่วย “โควิด-19” รายใหม่ยังติดเชื้อในบ้านเป็นหลัก

ศบค.ย้ำยังต้อง “ค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก” ในพื้นที่เสี่ยง เผยผู้ป่วย “โควิด-19” รายใหม่ยังติดเชื้อในบ้านเป็นหลัก

โควิด-19 เมื่อวันที่ 26 เมษายน ที่ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล “โควิด-19” ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) เปิดเผยระหว่างแถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ป่วยยืนยันใหม่ 15 ราย สะสมอยู่ที่ 2,922 ราย ในจำนวน 15 รายใหม่ พบใน 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร อยู่ในระหว่างการกักกันในสถานที่รัฐจัดให้(state quarantine=4ราย) 7 ราย ภูเก็ต 4 ราย ยะลา 2 ราย ชลบุรี (state quarantinn) 1 ราย และ นครปฐม 1 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในจำนวนทั้งหมดนี้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม

กลุ่มที่ 1 ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ จำนวน 8 ราย
1.มีประวัติสัมผัส/เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 4 ราย
1.1 สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 4 ราย

Advertisement

2.ผู้ป่วยกลุ่มอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 4 ราย
2.1 ไปสถานที่ชุมนุม เช่น ห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่ กทม. รวมเป็น 3 ราย
2.2 ทำงานอาชีพเสี่ยงเช่นทำงานในสถานที่แออัดหรือทำงานใกล้ชิดสัมผัสกับชาวต่างชาติ (จ.นครปฐม) 1 ราย

3.อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 0 ราย

กลุ่มที่ 2 การค้นหาเชิงรุก (Ative case finding) พื้นที่ จ.ยะลา 2 ราย

Advertisement

กลุ่มที่ 3 ผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าการกักกันในพื้นที่ที่รัฐจัดให้(state quarantine) มาจาก UAE อยู่ใน กทม. 4 ราย และ เนเธอร์แลนด์อยู่ใน จ.ชลบุรี 1 ราย รวมเป็น 5 ราย

“สิ่งที่ทางหน่วยงานของรัฐบาลได้จัดระบบในการสร้างระบบกักกันของรัฐที่ดูแลพร้อมกับการตรวจค้นหาในเชิงรุกส่งผลให้ตัวเลขจำนวนผู้ป่วยใหม่ยังอยู่ในจำนวน 2 หลัก เรียกว่ายังมีการระบาดอยู่แต่เป็นที่น่าพึงพอใจ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การกระจายตัวของผู้ป่วยใหม่ในแต่ละวัน พบว่าจำนวนผู้ป่วยใหม่ในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีผู้ที่ป่วยอยู่ในศูนย์กันกัน คนเข้าเมืองที่ จ.สงขลาจำนวน 42 ราย ในส่วนของ กทม.-นนทบุรียังมีการขึ้นๆลงๆอยู่ ส่วนการกระจายตัวตามรายภาคจะพบว่าในภาคใต้

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จากการรายงานเมื่อวันที่ 25 เมษายน พบว่ามีจำนวนที่สูงเนื่องจากมีผู้ที่อยู่ในศูนย์กักกันคนเข้าเมือง และในวันนี้มีจำนวนที่ลดลงมาเป็นที่น่าพึงพอใจ ส่วนปัจจัยเสี่ยงในการสัมผัสผู้ป่วยจำแนกรายสัปดาห์ ในสัปดาห์ที่ 18 ระหว่างวันที่ 26 เมษายน- วันที่ 2 พฤษภาคม จะพบว่าผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศและได้เข้าทำการกักกันในสถานที่รัฐจัดไว้ให้ มีจำนวนห้ารายซึ่งหมายถึงว่าระบบการคัดกรองนั้นดำเนินไปอย่างดี ส่วนปัจจัยอื่น เช่น สถานบันเทิง สนามมวย สถานที่แออัด มีจำนวนผู้ป่วยที่ลดน้อยลงเรื่อยๆ

“ขณะนี้เราจะต้องมุ่งหาค้นหาผู้ป่วยในเชิงรุก (active case finding) เพื่อลงลึกในแต่ละพื้นที่ เป็นการลงค้นหาเฉพาะกลุ่ม จะพบว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาพบถึง 14 ราย แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงที่ยังพบมากที่สุดคือการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้ ดังนั้นหากจะต้องอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่เคยป่วยและถูกวินิจฉัยยืนยันว่ามีการติดเชื้อ จะต้องสังเกตอาการตนเองอย่างใกล้ชิด หากมีอาการจะต้องรีบมาพบแพทย์” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image