ตาปลายฝนเชื่อ หลานเขยคนใหม่ไม่บอกรับ 5 พันมาแล้ว ชี้เป็นคนถือเอทีเอ็ม เหตุหลานคิดสั้น

ตาปลายฝนเชื่อ หลานเขยคนใหม่รับเงิน 5 พันแล้วไม่บอกปลายฝน ชี้เป็นคนถือเอทีเอ็ม เหตุหลานคิดสั้น

ปลายฝน – เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม นายพร อ่ำสาริกา อายุ 69 ปี ตาของ น.ส.ปลายฝน อ่ำสาริกา อายุ 19 ปี รปภ.สาวที่ตัดสินใจแขวนคอเสียชีวิตภายในห้องพักที่ กทม. เมื่อช่วงก่อนรุ่งเช้ามืดของวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา หลังโพสต์ภาพวาด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมข้อความตัดพ้อถึงความทุกข์ยากจนถึงขั้นไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกกิน โดยไม่ทราบว่าตนได้รับเงินเยียวยาช่วยเหลือจากทางรัฐบาลแล้ว

นายพรกล่าวว่า เชื่อมั่นว่าเหตุที่หลานสาวจบชีวิตลงด้วยการผูกคอตายนั้น เป็นเพราะไม่ทราบว่าได้รับเงินช่วยเหลือ 5,000 จากรัฐบาลแล้ว เนื่องจากหลานเขยที่เพิ่งคบหากันได้เพียงประมาณ 4 เดือน รับเงินเยียวยาโดยไม่บอกให้ทราบว่าได้รับเงินจากรัฐบาลแล้ว เพราะหลานเขยเป็นคนถือบัตรเอทีเอ็ม และนำเงินไปส่งค่างวดรถจักรยานยนต์ ตลอดจนเงินค่าแรงงานจากการทำงานเป็น รปภ. หลานเขยเป็นคนรับซองเงินค่าจ้างแรงงานมาให้ เนื่องจากหลานสาวยังไม่มีบัญชีธนาคารกับทางบริษัท เนื่องจากอยู่ในช่วงสถานการณ์ปิดเมืองจากโรคโควิด-19 จึงยังเปิดบัญชีใหม่ไม่ได้ ทำให้เงินเหลือมาถึงมือหลานสาวเพียงสัปดาห์ละ 2,000 บาทเท่านั้น ทำให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปลายฝนไม่ทราบว่าจำนวนเงินค่าจ้างแรงงานที่ได้รับแต่ละครั้งรวมทั้งจำนวนเงินที่ถูกหักค่าชุดและค่าเบิกล่วงหน้า จึงคิดว่ามีรายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย ประกอบกับค่าครองชีพในกรุงเทพฯสูงกว่าที่ จ.ฉะเชิงเทรา เพราะข้าวของแพงกว่ามาก

“หลังหลานสาวไปทำงานเป็น รปภ.ได้ 2 เดือน เมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้โอนเงินมาให้เป็นค่านมลูก รวม 4 ครั้ง ผ่านบัญชีของหลานเขยคนใหม่ ครั้งแรกโอนมาให้ 3,000 บาท ครั้งต่อมาโอนมาสัปดาห์ละ 2,000 บาท รวม 3 ครั้ง เชื่อว่าหลานเขยใหม่รายนี้เป็นผู้เอาเงินไป ทำให้หลานสาวเข้าใจผิด และตัดสินใจก่อเหตุแขวนคอตายดังกล่าว ซึ่งหากผมทราบความจริงมาก่อนว่าเขาจะมาร่วมงานสวดศพในคืนวันที่ 2 คงอดใจไม่ไหว อาจจะก่อเหตุหรือกระทำอะไรบางอย่างลงไปแล้ว เพราะเขาทำให้หลานสาวตายไปทั้งคน วันนี้จึงอาจต้องใส่โซ่ตรวนมาขอร่วมจัดงานศพหลานแล้ว

“ส่วนทางคดียังไม่ได้พูดคุยกันว่าจะทำอย่างไร ต้องรอปรึกษากันหลังจากเสร็จสิ้นงานศพไปก่อน แต่ได้ปรึกษากับทางนักกฎหมายมาบ้างแล้ว ทราบว่ายังไม่สามารถเอาผิดอะไรต่อเขาได้มากนัก เพราะไม่มีหลักฐาน ต้องรอดูก่อน” นายพรกล่าว

Advertisement

ด้านนางสาคร อ่ำสาริกา อายุ 67 ปี ยายของ น.ส.ปลายฝน กล่าวว่า แฟนเก่าของ น.ส.ปลายฝน ซึ่งเป็นพ่อของเด็กวัย 8 เดือน ชอบบังคับให้หลานสาวออกไปทำงานหาเงินมาให้ ส่วนตัวเองไม่มีอาชีพอะไรทำ เพราะไปทำงานที่ไหนก็ทำได้เพียง 2-3 วัน ต้องออกจากงาน อีกทั้งมีข่าวเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจึงเลิกรากันไปประมาณ 5-6 เดือนที่ผ่านมา หลังจากคบหากันมาประมาณปีเศษ ก่อนหลานสาวจะมาคบหาแฟนใหม่รายนี้ได้เพียง 4 เดือนเท่านั้น จากนั้นพาไปอยู่ด้วยกันและทำงานเป็น รปภ.ในกรุงเทพฯ ครั้งแรกแฟนเก่ายังตามไปราวีอยู่บ้าง แต่ถูกกลุ่ม รปภ.ช่วยไว้ ขณะเดียวกันตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หลานสาวยังได้โทรศัพท์ผ่านทางวิดีโอคอลมาหาทุกวัน ช่วงเย็นๆ ใกล้ค่ำ เพื่อพูดคุยเล่นกับบุตรชาย ซึ่งวันล่าสุดก่อนเกิดเหตุ หลานสาวปิดคาดหน้า และก้มหน้าให้เห็นเพียงแค่ลูกตา ตนจึงทักท้วงว่าทำไมทำอย่างนั้น แต่หลานไม่ตอบมัวเล่นกับบุตรชาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image