“ฮู” ขอทั่วโลกคลายล็อกช้าๆ หวั่น “โควิด-19” พุ่งอีกรอบ ศบค.ขอ “สวมหน้ากาก-เวิร์กฟรอมโฮม” ต่อ

“ฮู” ขอทั่วโลกคลายล็อกช้าๆ หวั่น “โควิด-19” พุ่งอีกรอบ ศบค.ขอคนไทยสวมหน้ากาก-เวิร์กฟรอมโฮมต่อ

โควิด-19 เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล “โควิด-19” ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) กล่าวระหว่างแถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า สถานการณ์ทั่วโลก 208 ประเทศ ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 60 และพบผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อทั่วโลกสะสมรวม 3,484,176 ราย อาการหนัก 50,858 ราย รักษาหายแล้ว 1,120,930 ราย เสียชีวิต 244,778 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ประเทศที่พบผู้ป่วยสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ 1.สหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อสูงที่สุดจำนวน 1,160,774 ราย เสียชีวิต 67,444 ราย 2.สเปน 245,567 ราย เสียชีวิต 25,100 ราย 3.อิตาลี 209,328 ราย เสียชีวิต 28,710 ราย 4.อังกฤษ 182,260 ราย เสียชีวิต 28,131 ราย 5.ฝรั่งเศส 168,396 ราย เสียชีวิต 24,760 ราย 6.เยอรมนี 164,967 ราย เสียชีวิต 6,812 ราย 7.ตุรกี 124,375 ราย เสียชีวิต 3,336 ราย 8.รัสเซีย 124,054 ราย เสียชีวิต 1,222 ราย 9.บราซิล 97,100 ราย เสียชีวิต 6,761 ราย และ 10.อิหร่าน
96,448 ราย เสียชีวิต 6,156 ราย และ ส่วนประเทศจีน ผู้ป่วย 82,877 ราย เสียชีวิต 4,633 ราย

Advertisement

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบว่า ประเทศปากีสถานอยู่ในลำดับที่ 24 พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 989 ราย รวมสะสม 19,103 ราย ประเทศสิงคโปร์อยู่ในลำดับที่ 26 พบผู้ป่วยรายใหม่ 447 ราย สะสมรวม 17,518 ราย ประเทศญี่ปุ่นอยู่ในลำดับที่ 31 พบผู้ป่วยรายใหม่ 266 ราย สะสมรวม 14,571 ราย ประเทศอินโดนิเซียอยู่ในลำดับที่ 36 พบผู้ป่วยรายใหม่ 292 ราย รวมสะสม 10,843 ราย ประเทศเกาหลีใต้อยู่ในลำดับที่ 37 พบผู้ป่วยรายใหม่ 13 ราย สะสมรวม 10,793 ราย ประเทศฟิลิปปินส์อยู่ในลำดับที่ 40 พบผู้ป่วยรายใหม่ 156 ราย รวมสะสม 8,928 ราย ประเทศมาเลเซียอยู่ในลำดับที่ 50 พบผู้ป่วยรายใหม่ 105 ราย รวมสะสม 6,176 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าว ประเด็นที่น่าสนใจในต่างประเทศ โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนทั่วโลกต้องคลายล็อกช้าๆ เตรียมรับโควิด-19 พุ่งอีกรอบ ดร.ไมค์ ไรอัน ผู้เชี่ยวชาญภาวะฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า เป็นเรื่องสำคัญจริงๆ ที่บรรดาประเทศต่างๆ ที่ผ่อนคลายมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะต้องเฝ้าระวังถึงการติดเชื้อที่จะพุ่งขึ้นมาใหม่ โดยเฉพาะในการรับมือกับการแพร่กระจายของเชื้อในสถานที่ที่มีลักษณะจำเพาะ นอกจากนี้ ยังต้องดำเนินการป้องกันบุคคลที่มีความเสี่ยงในสถานที่ต่างๆ รวมถึงในสถานดูแลระยะยาว เรือนจำ และที่พักแรงงานต่างชาติ ทั้งยังต้องให้ชุมชนฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่งทางสังคม และสุขอนามัยต่างๆ ต่อไปรวมถึงต้องตรวจหาเชื้อในกลุ่มผู้ต้องสงสัยไปอย่างต่อเนื่องด้วย แม้จะสามารถควบคุมการระบาดไว้ได้แล้วก็ตาม

Advertisement

“เหล่านี้คือ มาตรการที่ประเทศไทยไม่ได้กำหนดเพียงอย่างเดียวแต่องค์การอนามัยโลกก็ได้นำทีมมา ประเทศไทยได้มีการทำและยืนยันในบางเรื่องมาก่อนโดยตลอด จึงเกิดผลอย่างนี้ ต้องเรียนว่าตัวเลขที่คงที่อย่างนี้อยู่ทำให้เราเกิดความสบายใจนั้นก็เพราะความร่วมมือจากทุกท่าน ไม่ใช่เพียง 2 คนที่ร่วมมือกันแต่จะต้องใกล้เคียงถึง 100% จะต้อง 90% ขึ้นไปจึงได้ผลอย่างนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้คือสิ่งที่ท่านทำใน 14 วันที่แล้ว ในวันนี้ที่เห็นภาพของท่านออกมากันมากมาย หากทุกท่านอย่างใส่ใจเรื่องของหน้ากากอนามัย 100% ล้างมือ กินร้อน ช้อนส่วนตัว รวมถึงการทำงานที่บ้าน (Work From Home) ตามที่ ศบค.แนะนำ และเป็นข้อกำหนดขึ้นมา หากเราทำได้ก็จะผ่านเดือนนี้ไปได้อย่างดี” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image