ประกันสังคมสั่งจ่าย ม.33 แล้ว 4.2 แสนราย อยู่ระหว่างดำเนินการ 2.4 แสน อีก 5 แสนรอนายจ้างรับรอง

ประกันสังคมสั่งจ่าย ม.33 แล้ว 4.2 แสนราย อยู่ระหว่างดำเนินการ 2.4 แสน อีก 5 แสนรอนายจ้างรับรอง

ประกันสังคม- เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม นางพิศมัย นิธิไพบูลย์ ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ในฐานะโฆษก สปส. กล่าวชี้แจงกรณีมีการเผยแพร่ข่าวความมั่นคงและเสถียรภาพของกองทุนประกันสังคมมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านบาท และการจ่ายเงินสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัยล่าช้า จนส่งผลให้ผู้ประกันตนเกิดความกังวลในการบริหารกองทุน ว่า ประเด็นข้อกังวลเงินกองทุนประกันสังคมกว่า 2 ล้านล้านบาท หายไปไหน กองทุนมีเงินเพียงพอที่จะจ่ายสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน และกรณีอื่นๆ หรือไม่นั้น ขอเรียนว่า กองทุนว่างงาน ปัจจุบันมีเงินกองทุนว่างงานอยู่จำนวนกว่า 160,000 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อการจ่ายสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประกันตน

“โดย สปส.ได้ประมาณการเบื้องต้น พบว่า จากจำนวนผู้มาขอรับสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน 1.2 ล้านคน คาดว่าจะคิดเป็นเงินทั้งหมด 20,000 – 30,000 ล้านบาท ซึ่ง สปส.ยืนยันว่ามีเงินกองทุนเพียงพอที่จะนำไปจ่ายสิทธิประโยชน์ดังกล่าว โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด พร้อมทั้งได้เตรียมสำรองสภาพคล่องไว้รอการจ่ายเงินแล้ว ขอให้ผู้ประกันตนวางใจว่า กองทุนมีเงินกองทุนเพียงพอ นอกจากนี้ เงินลงทุน 2 ล้านล้านบาท ยังอยู่ครบถ้วน ไม่ได้หายไปไหน” โฆษก สปส. กล่าว

นางพิศมัย กล่าวว่า สำหรับเงินลงทุนกองทุนประกันสังคม ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 จำนวน 2,032,841 ล้านบาท ลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง เช่น พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรรัฐวิสาหกิจที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน หุ้นกู้บริษัทเอกชนที่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ และหน่วยลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ จำนวน 1,671,176 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 82 ของเงินกองทุน และลงทุนในหลักทรัพย์ อาทิ หุ้นสามัญ หน่วยลงทุนในหุ้นต่างประเทศ หน่วยลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โครงสร้างพื้นฐาน ทองคำ จำนวน 361,665 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 18 ของเงินกองทุน ซึ่งเป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการประกันสังคมที่กำหนดให้ต้องมีสัดส่วนหลักทรัพย์มั่นคงอย่างน้อย ร้อยละ 60 ซึ่งการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลจะมีปริมาณที่สูงกว่าหลักทรัพย์ประเภทอื่น

Advertisement

“เนื่องจากเป็นการลงทุนที่สร้างรายได้ที่สม่ำเสมอให้กับกองทุน และประเด็นกรณีการจ่ายเงินช่วยเหลือจากประกันสังคมที่ล่าช้า ในเรื่องนี้ กระทรวงแรงงาน โดย สปส.ได้ดำเนินการนำเรื่องการปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยให้ขยายความคุ้มครองผู้ประกันตนจากภัยอันเกิดจากโรคที่แพร่หรือระบาดในมนุษย์ โดยกฎหมายได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2563 เวลา 18.30 น ซึ่งสปส.เริ่มทยอยจ่ายเงินกรณีว่างงาน ให้ผู้ประกันตนกลุ่มแรกเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2563 จนกระทั่งปัจจุบันสรุปข้อมูล ณ วันที่ 3 พฤษภาคม 2563 มีจำนวนผู้ประกันตนยื่นขอใช้สิทธิ จำนวน 1,177,841 ราย ได้สั่งจ่ายให้แก่ผู้ประกันตนไปแล้วทั้งสิ้น 426,358 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการ 243,974 ราย และอยู่ระหว่างติดตามนายจ้างจำนวนกว่า 50,000 สถานประกอบการ ให้เข้ามารับรองสิทธิลูกจ้าง จำนวน 507,509 ราย” โฆษก สปส. กล่าว

นางพิศมัย กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของทุกส่วนราชการของกระทรวงแรงงาน เร่งระดมประสานงานติดตามนายจ้างจำนวนกว่า 50,000 ราย ให้เข้ามารับรองการหยุดงาน รวมทั้ง สปส.จะได้ออกหนังสือแจ้งนายจ้างให้เข้ามารับรองการหยุดงานของลูกจ้างกลุ่มดังกล่าว เพื่อไม่ให้ลูกจ้างเสียสิทธิ์

“จากการติดตามพบว่า มีประมาณร้อยละ 20 เป็นสถานประกอบการที่เปิดทำการปกติและจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้าง ประมาณการลูกจ้างจำนวนกว่า 1 แสนคน มีประมาณร้อยละ 10 เป็นสถานประกอบการที่จ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างตามมาตรา 75 พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงาน ประมาณการลูกจ้างจำนวนกว่า 2 แสนคน คงเหลือจำนวนลูกจ้างที่คาดว่าจะมีคุณสมบัติครบถ้วน ซึ่ง สปส.กำลังเร่งให้นายจ้างดำเนินการรับรอง สั่งจ่ายในกลุ่มนี้อีกกว่า 2 แสนราย” นางพิศมัย กล่าว

Advertisement

โฆษก สปส.กล่าวว่า ขอชี้แจงแก่ลูกจ้างผู้ประกันตนว่า การรับเงินว่างงานกรณีเหตุสุดวิสัยนั้น จะต้องเป็นกรณีที่นายจ้างหยุดประกอบกิจการชั่วคราวและไม่จ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้าง ประกอบกับลูกจ้างนั้นจะต้องจ่ายเงินสมทบครบตามเงื่อนไขในการขอรับสิทธิ์ประโยชน์กรณีว่างงานคือ มีการนำส่งเงินสมทบครบ 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนย้อนหลัง

“สปส.มีกรอบในการปฏิบัติงานภายใต้ พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงต้องขออภัยหากการดำเนินการจะไม่สามารถเป็นไปตามที่นักวิชาการหรือผู้มีความเห็นต่างๆ ได้แนะนำภายในระยะเวลาอันรวดเร็วภายใต้วิกฤตนี้ อย่างไรก็ดี สปส.ขอน้อมรับที่จะนำไปปรับปรุงข้อกฎหมายต่างๆ ที่ทุกคนได้มีความเห็นมา” นางพิศมัย กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image